วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ท่องวิถี แลชุมชน ยลธรรมชาติ...บนลุ่มน้ำ "ทะเลน้อย" พัทลุง




สายฝนเริ่มโปรยปราย ความชุ่มฉ่ำเข้ามาแทนที่ นั่นหมายความว่าฤดูฝนกำลังจะมาเยือน เมื่อสายฝนเริ่มโปรยปรายอย่างนี้  การเดินทางท่องเที่ยวอาจจะดูซบเซาลงไปบ้าง แต่ที่นี่ "ทะเลน้อย" จังหวัดพัทลุงยังคงความมีเสน่ห์พร้อมที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัส แม้จะย่างเข้าฤดูฝน  ...กลิ่นโคลนสาบควาย ท้องทุ่งนาที่กำลังเขียวขจี กับเม็ดฝนละอองเล็ก ๆ พร้อมที่จะดึงดูดให้ใครต่อใครไปสัมผัสได้ทุกเมื่อ

หมุดหมายการเดินทางท่องเที่ยวของผมในครั้งนี้ อยู่ที่ “ทะเลน้อย พัทลุง...ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่าดินแดนเมืองสามน้ำ สองทะเล” เป็นดินแดนที่มีความงามทางธรรมชาติที่สวยงาม และยังมีชุมชนดั้งเดิม ที่ยังคงความมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีสิ่งที่น่าสนใจซ่อนอยู่ที่นั่นมากมาย


การเดินทางไปเยือน  "ทะเลน้อย" จังหวัดพัทลุงของผมในครั้งนี้ ผมได้เห็นวิถี อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ได้สัมผัส ได้เห็นการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงชุมชน และวิถีดั้งเดิม ซึ่งจะทำให้เกิดการ ท่องเที่ยวโดยชุมชนแบบสมดุลอย่างยั่งยืน ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งโครงการดีๆนี้ ได้รับการสนุนจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์




บน “สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” มีบางคนเรียกสะพาน หัวป่า-ไสกลิ้ง สะพานแห่งนี้ตัดผ่านเชื่อมตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา กับตำบลนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถย่นระยะทางจาก 160 กิโลเมตร เหลือเพียง 17.5 กิโลเมตร ดูเหมือนเส้นทางชีวิตของผู้คนสองจังหวัดจะง่ายขึ้นมาก

สะพานทอดยาวข้ามคลองนางเรียม คลองบ้านกลาง และบางส่วนของทะเลน้อย มีจุดพักรถ 2 จุดบนสะพานแลดูว่างเปล่ายาวไกล ต่างกลับใต้สะพานที่เต็มไปด้วยชีวิต







ฝูงนกปากห่าง นกอีโก้ง และ นกน้ำอีกหลากหลายสายพันธ์ วิ่งหาอาหารไปมาสลับกับบิน ร่อนลงไปยังกอผักตบชวนให้เราได้เพลิดเพลิน... มีใครบางคนบนสะพาน ชี้มือร้องเรียกให้ดู “ควายน้ำ” หรือควายปลัก ชนิดหนึ่ง ที่กำลังเดิน ฝ่าแสงแดด บ้างก็ยืนเล็มหญ้าอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ ใต้สะพานมีควายอีกฝูงเดินเล็มหญ้าโชว์นักท่องเที่ยว ที่แวะเวียนมาจอดรถให้ได้เก็บภาพงาม ๆ

ผมมีโอกาสมาเยือนสะพานที่ทอดยาวไกลไปบนผืนน้ำแห่งนี้เป็นครั้งที่สอง เพียงแค่ผมนั่งรถขึ้นมาบนสะพาน ก็สัมผัสถึงความโล่งกว้าง ของท้องน้ำ ท้องทุ่ง และท้องฟ้า วิวสวยงามรอบตัว ฝูงนกที่บินโฉบไปมา ทำให้ผมรู้สึกถึงอิสระ ใครที่รู้สึกเหนื่อยล้า อยากให้ลองมารับพลังดี ๆ ที่นี่กันครับ

ใครต่อใครที่ขับรถขึ้นมาบนสะพานก็มักจะจอดรถแล้วออกมายืนรับลมเย็น ๆ ชมวิวงาม ๆ ... ใครที่ชอบถ่ายรูปไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นทั้งจุดถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก ใครพกเลนส์ยาว มา จะส่องฝูงนก ส่องฝูงควายก็ได้เพลินดีครับ...ใครชอบปั่นจักรยาน บนถนนสายนี้ก็มีเลนจักรยานให้ สามารถเอาจักรยานมาปั่นได้ชิว ๆ บรรยากาศดีมากทั้งเช้าและเย็น




ถ้าถามว่าถนนเส้นไหนที่สวยที่สุดในประเทศไทย ที่นี่ก็คงจะติด 1 ใน 10 แน่นอน



ชุมชนคนทะเลน้อย

ทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ดูนกน้ำ ชมทุ่งบัวแดง และควายน้ำในทะเลน้อยแล้ว ผมอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาแวะเที่ยวชุมชนทะเลน้อย ชมวิถีชีวิตของคนทะเลน้อยที่อาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน




นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนทะเลน้อยในการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการประมง ทำปลาน้ำจืดตากแห้ง ทำปลาดุกร้า รวมทั้งการทำเสื่อกระจูด ที่เป็นอาชีพหลักของคนที่นี่...ซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยการเดินไปบนสะพานปูนแคบ ๆ และยังมีสะพานไม้เคี่ยมอายุนับร้อยปี ที่ชาวบ้านที่สร้างเพื่อเดินทางระหว่างครัวเรือนต่อกัน พร้อมทั้งบริเวณฝาบ้านเรือนไม้ตามจุดต่าง ๆ ยังมีการวาดภาพสีน้ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นจุดเช็กอินกันอีกตามมุมต่าง ๆ และยังเป็นการสร้างสีสันให้คนในชุมชน









ที่ชุมชน ทะเลน้อย มีผลิตภัณฑ์ ของฝากจากปลา ที่หลากหลาย





หลายครัวเรือนในชุมชน "ทะเลน้อย" มีการทำผลิตภัณฑ์ จากกระจูด
















วิถีชุมชนชาว "ทะเลน้อย"



ตลาดสวนไผ่สร้างสุข...(สวนไผ่ขวัญใจ)

หลังจากเดินชมชุมชนคนทะเลน้อย...ผมไม่พลาดที่จะไปเดินหาอาหารพื้นถิ่นภาคใต้อร่อย ๆ ทานที่ “สวนไผ่ขวัญใจ” ไฮไลท์สำคัญของป่าไผ่สร้างสุข ก็คือ ตลาดสีเขียว เป็นโซนที่ชาวบ้านในชุมชนนำอาหารพื้นเมือง ขนมท้องถิ่นที่หากินยาก ผักสด ผลไม้ พร้อมทั้งสินค้าแฮนด์เมดมาจำหน่าย ในราคาสุดย่อมเยา





อาหารที่ห้ามพลาดของที่นี่ ก็จะเป็นของคาวและของหวานพื้นเมือง อาทิ แกงน้ำเคย หรือแกงไตปลา, ข้าวยำปักษ์ใต้, ข้าวนึ่ง, ขนมจีนแกงใต้, หมูสะเต๊ะ, ข้าวราดคั่วเนื้อหัวข่าอ่อน, ข้าวต้มสมุนไพรเต้าเจี้ยวดองขิง, ขนมม้า,ขนมสาคู เป็นต้น

นอกจากโซนตลาดสีเขียวแล้ว ก็ยังมีพื้นที่กิจกรรมของเด็ก ๆ ให้ได้เรียนรู้ในเรื่องของดนตรี การทำผ้าทอสีธรรมชาติ ฯลฯ และยังมีศูนย์การเรียนรู้การเพาะปลูก การขยายพันธุ์ และการทำของตกแต่งบ้านจากไผ่สำหรับผู้ที่สนใจ รวมไปถึงยังมีพื้นที่ป่าไผ่สีเขียวสุดร่มรื่นให้ได้เที่ยวชม และนั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งก็เหมาะสำหรับการมาปิกนิกและสังสรรค์กับครอบครัว


























บรรยากาศ ตลาดสวนไผ่สร้างสุข...(สวนไผ่ขวัญใจ)


ใครอยากไปเดินเที่ยวชมป่าไผ่สร้างสุข สามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.ครับ

วันหยุดว่าง ๆ ลองไปชาร์จพลังงานจากธรรมชาติและความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตแบบพอดี ที่ป่าไผ่สร้างสุข จังหวัดพัทลุง และชิมอาหารอร่อยๆ กันนะครับ


คลองปากประ

หลังจากท่องเที่ยวชุมชน รอบๆ ทะเลน้อย ผมเข้าที่พักซึ่งเป็นรีสอร์ทแถวๆคลองปากประ ซึ่งเป็นคลองที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง... โดยเป็นแหล่งน้ำสำคัญของอำเภอควนขนุนที่ไหลรวมมาจากลำน้ำสายต่างๆมาบรรจบกันเป็นคลองปากประ แล้วไหลออกสู่ทะเลสาบสงขลา


คลองปากประจึงเปรียบเสมือนเป็นประตูเชื่อมสำคัญของสายน้ำที่ไว้ใช้ทางการเกษตรและให้ปลาต่างๆได้ว่ายเข้าออก ทำให้บริเวณคลองปากประแห่งนี้จึงกลายเป็นแหล่งชุมนุมของปลาและกลายเป็นแหล่งจับปลาที่สำคัญโดยมีชาวบ้านได้มาตั้งยอดักจับปลาเป็นจำนวนมากจนดูยุ่งเหยิงแต่สวยงาม จนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา ในช่วงฤดูน้ำหลากอย่างนี้ เราจะได้เห็นวิถีชีวิตการยกยอยักษ์และดักจับสัตว์น้ำของชาวบ้านบริเวณนี้





รีสอร์ทที่ผมพักเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวยอยักษ์ได้อย่างสวยงาม ผมรอเวลาในช่วงเช้าเพื่อเก็บภาพทิวทัศน์ตอนพระอาทิตย์ขึ้นกับยอยักษ์ ...เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพเพราะที่คลองปากประมีมุมให้ถ่ายภาพมากมาย 

ถ้านักท่องเที่ยวไม่ได้พักที่รีสอร์ทตรงบริเวณคลองปากประแห่งนี้ จะพักบริเวณทะเลน้อยแล้วเดินทางมาที่คลองปากประในตอนเช้าเพื่อเก็บภาพสวยๆ ที่นี่ก็ได้เช่นกัน



 เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างผมได้เห็นภาพประทับใจของยอขนาดใหญ่จำนวนมากที่ตั้งกระจายตัวกันอยู่ในท้องน้ำ เสียงเรือหางเริ่มแล่นออกสู่ทะเลน้อย ชาวประมงออกทำงานกันแต่เช้าตรู่ ผมจึงได้เห็นภาพวิถีชีวิตการยกยออันเป็นเสน่ห์ของพื้นที่แห่งนี้โดยมีแสงจากดวงพระอาทิตย์เป็นฉากหลัง นับเป็นอีกหนึ่ง ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามและมากไปด้วยวิถีชีวิต




เมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูง เราก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังทะเลน้อยเพื่อชมธรรมชาติ ชีวิตสัตว์น้ำ สัตว์บก และดอกบัวที่สวยงามในทะเลน้อย... เรือค่อยๆ พาเราออกห่างจากบริเวณคลองปากประ ล่องลัดเลาะไปตามผืนน้ำที่เชื่อมต่อไปยังทะเลน้อย ทิวทัศน์รอบข้างแสนสดชื่นเพราะเต็มไปด้วยพืชน้ำต่างๆ อีกทั้งยังได้ชมนกนานาชนิด ผมพอจะรู้จักชื่อบ้างไม่รู้จักบ้าง ต่างก็พากินออกหากินไปตามกอผักตบและพื้นดินรอบๆ

ที่นี่มี ทั้งนกประจำถิ่น นกอพยพ โดย นกที่หาชมได้ไม่ยากก็มี นกยาง นกกาน้ำ นกอีโก้ง นกเป็ดผี นกเป็ดแดง นกนางนวล นกนางแอ่น นกเป็ดคับแค นกกระสา อีกา และพวกเหยี่ยว





นอกจากนกแล้ว เสน่ห์ของทะเลน้อยอีกอย่างก็คือ “ควายน้ำ” อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี ควายที่นี่ผมมองอย่างไรหน้าตาก็เป็นควายธรรมดาๆ ทั่วไปนั่นแหละ... แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คงจะเป็นควายมีความสามารถสูงกว่าควายที่อื่น เพราะควายทะเลน้อยสามารถปรับตัวไปตามแหล่งอาหารของมัน คือเมื่อน้ำในทะเลน้อยลดต่ำจนมีสันดอนพื้นดินโผล่ มีทุ่งหญ้าขึ้น เจ้าควายพวกนี้มันก็จะขึ้นมาและเล็มหญ้าบนบก แต่ในยามหน้าน้ำ ทะเลน้อยมีปริมาณน้ำสูงท่วมแหล่งหากินของควาย เจ้าควายพวกนี้มันก็จะปรับตัว เปลี่ยนมากินพืชน้ำอย่างสายบัว ใบบัว หรือสาหร่ายแทน โดยจะพากันว่ายน้ำชูคอลงไปหากินในน้ำ เรียกว่าเป็น “ควายน้ำ” อันแสนน่ารักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเห็น







“ควายน้ำ” ทะเลน้อย

เรือแล่นต่อมาอีกสักพัก เรามองเห็นสะพานสีขาวทอดตัวยาวเหยียดข้ามผ่านผืนน้ำ เป็นสะพานที่เราจอดรถเก็บภาพเมื่อวานนั่นก็ คือ “ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” นั่นเอง


คลิป "ล่องเรือ...ทะเลน้อย พัทลุง"


ทะเลน้อย เป็นทะเลสาบน้ำจืด ตั้งอยู่ใน ตำบลนางตุง และ ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีคลองนางเรียมยาว 2 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างทะเลน้อยกับทะเลสาบสงขลา ทะเลน้อยได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย แต่ประชาชนมักเรียก กันว่า "อุทยานนกน้ำทะเลน้อย"ซึ่งนับเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพรรณพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ความหลากหลายทางชีวภาพของทะเลน้อย ทำให้พื้นที่ “พรุควนขี้เสี้ยน” ของทะเลน้อยได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือ “แรมซาร์ ไซด์” (Ramsar Site) แห่งแรกในเมืองไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2541 ทะเลน้อยเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก ทั้งระบบนิเวศ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ พรรณพืช โดยเฉพาะนกที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก






จุดเด่นของการล่องเรือท่องเที่ยวทะเลน้อย คือ การชม “ทะเลบัวแดง” หรือ “ทะเลบัวสาย” พันธุ์บัวที่มีขึ้นอยู่มากที่สุด โดยในช่วงเช้าเหล่า บัวสายจะพาออกดอกสีแดงสดบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำในบริเวณที่มีบัวชนิดนี้ขึ้นอยู่ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันความงามคู่ทะเลน้อยที่มีอยู่คู่กัน มาแต่ช้านาน ...ดอกบัวจะบานเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น พอเข้าช่วงสายก็จะหุบแล้ว นอกจากนี้ระหว่างนั่งเรือชมดอกบัว ยังสามารถชมพืชพันธุ์น่าสนใจ อื่น ๆ อาทิ ผักตบชวา จอก แหน สาหร่ายต่าง ๆ กระจูด กง ย่านลิเภา กก และเสม็ดที่ยืนต้นตระหง่านอยู่ในพื้นที่ป่าบก อีกทั้งยังเพลิดเพลินกับบรรดานกน้ำนานาชนิด





สำเภาไทย

เป็นแลนด์มาร์ค อีกแห่งของจังหวัดพัทลุง ถ้าใครไปเที่ยวทะเลน้อยแล้วไม่แวะไปเช็คอินที่นี่ ถือว่าพลาดเลยหล่ะครับฮ่าาาๆๆๆ

สำเภาไทย ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ มีเนื้อที่กว้างขวางประมาณ 10 ไร่ ส่วนหนึ่งเป็นท้องทุ่งนาเขียวขจีสบายตา และสะพานไม้ทอดยาวไปในผืนนา ซึ่งเราสามารถเดินหามุมถ่ายรูปไปบนสะพานแบบชิลล์ๆ ได้อย่างสบายอารมณ์ หรือจะนั่งห้อยขาจิบกาแฟชิลล์ๆ ก็ทำได้ตามอัธยาศัย

ไฮไลท์ของที่นี่ก็เห็นจะเป็นหุ่นฟางคิงคองยักษ์ ที่กำลังชักลากเรือสำเภาลำใหญ่ ตั้งโดดเด่นสะดุดตาอยู่กลางทุ่งนา ซึ่งกลายเป็นจุดแลนด์มาร์ค ให้นักท่องเที่ยวมาชมและเก็บภาพสวยๆ







"สำเภาไทย" แลนด์มาร์ค อีกแห่งของจังหวัดพัทลุง



"ทะเลน้อย" นับว่าเป็นดินแดนแห่งชีวิตและเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ ที่มาท่องเที่ยวชมความงามที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทะเลน้อยจึงเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ที่ยิ่งใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวปักษ์ใต้ที่อาศัยอยู่รายรอบ มาแต่โบราณกาลจนถึงยุคปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แกลอรี่รูปภาพTiewZogZag