บุรีรัมย์ ได้รับสมญานามว่าเมืองปราสาทหินมาเนิ่นนานเนื่องจากเป็นที่ตั้งของปราสาทหินอลังการและสำคัญถึงสองแห่ง คือปราสาทพนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำ ปัจจุบัน บุรีรัมย์มีปราสาทมาเพิ่มอีกหนึ่งปราสาทคือ ปราสาทสายฟ้า ทีมฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยม ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ชาวบุรีรัมย์หันมาให้ความสนใจกับการออกกำลังกาย ร่วมแรงร่วมใจเชียร์ทีมรัก กันอย่างคึกคัก
จังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ในอีสานตอนใต้ ซึ่งกำลังเติบโตด้านเศรษฐกิจ กีฬา และการท่องเที่ยวอย่างไม่หยุดยั้ง...และที่นี่ยังมีแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีวิถีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกได้มาตรฐาน เช่นถนน เส้นทางจักรยาน ที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ เป็นการผนวกรวมสิ่งดีงามในอดีตเข้ากับความยิ่งใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว บุรีรัมย์ จึงโดดเด่นขึ้นมาในฐานะเมืองสำคัญแห่งอีสานใต้ ที่น่าไปเยือนได้ตลอดทั้งปี
จากคำขวัญ "เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม"
ผมมีโอกาสไป นอนโฮมสเตย์ชาวบ้านสัมผัสกับแหล่งผลิตผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม วิถีไทยยังครบแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์...คือ "บ้านสนวนนอก"
ท่องเที่ยววิถีไทย...ไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่าง
@ บ้านสนวนนอก บุรีรัมย์
ก่อนจะตามผมไปนอนโฮมสเตย์เดินเตร็ดเตร่เที่ยวบ้านสนวนนอกด้วยกัน ผมขอเล่าที่มาที่ไปของหมู่บ้านแห่งนี้ให้เพื่อนๆได้รู้ประวัติกันสักนิดก่อนก็แล้วกัน และเห็นว่าในที่ของตนมีต้นสนวนอยู่มาก จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านสนวน"
ย้อนกาลเวลากลับไปประมาณปี พ.ศ.2348 บ้านสนวนนอกมีสภาพเป็นป่าทึบ มีต้นไม้ชื่อว่า "ต้นสนวน" เกิดขึ้นมากมาย "นายดำ" (ไม่มีนามสกุล) เป็นช่างตีเหล็กจากจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นผู้เข้ามาตั้งรกรากเป็นคนแรก
ท่องเที่ยววิถีไทย...ไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่าง
@ บ้านสนวนนอก บุรีรัมย์
ก่อนจะตามผมไปนอนโฮมสเตย์เดินเตร็ดเตร่เที่ยวบ้านสนวนนอกด้วยกัน ผมขอเล่าที่มาที่ไปของหมู่บ้านแห่งนี้ให้เพื่อนๆได้รู้ประวัติกันสักนิดก่อนก็แล้วกัน และเห็นว่าในที่ของตนมีต้นสนวนอยู่มาก จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านสนวน"
ย้อนกาลเวลากลับไปประมาณปี พ.ศ.2348 บ้านสนวนนอกมีสภาพเป็นป่าทึบ มีต้นไม้ชื่อว่า "ต้นสนวน" เกิดขึ้นมากมาย "นายดำ" (ไม่มีนามสกุล) เป็นช่างตีเหล็กจากจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นผู้เข้ามาตั้งรกรากเป็นคนแรก
ยามเช้าที่บ้านสนวนนอก
สมัยก่อน หมู่บ้านสนวนเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย จนได้มีคำพูดว่า "อยากอยู่ดีมีสุข ต้องไปอยู่บ้านสนวน"
ชาวบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่ยังมีการใช้วิถีชีวิตแบบบ้านๆ เดิมๆ ดิบๆ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่หาดูได้ยากในสังคมปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและใช้ภาษาถิ่นเขมรในการสื่อสาร พื้นที่ของหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ชาวบ้านมีอาชีพหลักคือการทำนาและมีอาชีพเสริมที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น นั่นก็คือการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมที่มีลวดลายเอกลักษณ์โบราณท้องถิ่นได้แก่ ผ้าไหมหางกระรอก(กระนีว),ผ้าไหมคลุมไหล่ยกดอกแก้ว,ผ้าโสร่ง,ผ้าขาวม้า และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าไหมต่างๆ
ชาวบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่ยังมีการใช้วิถีชีวิตแบบบ้านๆ เดิมๆ ดิบๆ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่หาดูได้ยากในสังคมปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและใช้ภาษาถิ่นเขมรในการสื่อสาร พื้นที่ของหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ชาวบ้านมีอาชีพหลักคือการทำนาและมีอาชีพเสริมที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น นั่นก็คือการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมที่มีลวดลายเอกลักษณ์โบราณท้องถิ่นได้แก่ ผ้าไหมหางกระรอก(กระนีว),ผ้าไหมคลุมไหล่ยกดอกแก้ว,ผ้าโสร่ง,ผ้าขาวม้า และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าไหมต่างๆ
เดินชมทุ่งนา ชิลล์ ชิลล์ ยามเช้า
ใช้ชีวิต ชิลล์ ชิลล์...กับวิถี บ้านๆ ที่บ้านสนวนนอก
บ้านสนวนนอก อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์เพียง 12 กิโลเมตร ถือว่าไม่ไกลมาก... เพียงขับรถไปบนทางหลวงชนบท สายห้วยราช-กระสัง ห่างห้วยราช 2 กิโลเมตร เพื่อนๆ ก็จะได้สัมผัส กับวิถีชีวิตสุดชิลล์ บนโฮมสเตย์ 15 หลัง ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่โหยหาอดีต ชีวิตบ้านนา ที่หาดูได้ยากในยุคสมัยปัจจุบัน
เมื่อผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับวิถีชุมชน นอนโฮมสเตย์ที่ บ้านสนวนนอก ผมไม่พลาดที่จะตื่นตั้งแต่ไก่โห่เดินไปหาท้องทุ่งนา ที่อยู่ทางทิศตะวันออก เพื่อเก็บภาพดวงตะวันสีส้ม ตัดกับนาข้าวสีเขียว ภาพงามๆอย่างนี้หาโอกาสดูได้ง่ายๆ ซะที่ไหน
รับแสงเช้า ทุ่งนาบ้านสนวนนอก ด้านทิศตะวันออก (หน้าวัด)
ตักบาตรเช้า...หน้าบ้านพักโฮมสเตย์
ช่วงเช้าพระที่วัดสนวนนอกจะออก เดินไปตามตรอกซอกซอย ของหมู่บ้านเพื่อรับบิณฑบาตรจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาพักยังโฮมสเตย์แต่ละหลัง วิถีพระเดินบิณฑบาตรอย่างนี้หาดูได้ยากขึ้นทุกวันในสังคมเมือง
ที่โฮมสเตย์บ้านสนวนนอก เจ้าของบ้านจะตื่นแต่เช้าเพื่อมาหุงหาอาหาร สำหรับตักบาตร และเผื่อสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มาพักในบ้านด้วยเช่นกัน
พระวัดสนวนนอก ออกเดินบิณฑบาตร ไปตามตรอกซอกซอยของหมู่บ้าน
ชิลล์ ชิลล์ ... ที่โฮมสเตย์
โฮมสเตย์ ที่เราพัก แต่ละหลัง เราสามารถเรียนรู้ถึงวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียบ ประเพณี วัฒนธรรม ในแบบดั้งเดิมของพื้นถิ่นที่เราไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ความยิ้มแย้มแจ่มใส การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันของคนในหมู่บ้าน ยังมีให้เห็นในสังคมบ้านสนวนนอก แห่งนี้
การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ บางครั้งเราต้องมีความรู้ ความเข้าใจในความหมายและรูปแบบของการท่องเที่ยวที่มุ่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของบ้านที่เข้าพัก
หน้าบ้านพักโฮมสเตย์
ผลไม้ยามเช้า
รังไก่ข้างยุ้งฉางข้าว
ชิลล์ ชิลล์ หน้ายุ้งฉางข้าว
ชาวบ้านสนวนนอก...นอกจากทำนาเป็นอาชีพหลัก ยังมีอาชีพเสริมที่ทำกันมาเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น นั่นคือการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมที่มีลวดลายเอกลักษณ์โบราณของท้องถิ่น ถือได้ว่าเป็นชุมชนที่ได้รับการยอมรับว่ามีฝีมือในการทอผ้าไหมได้อย่างงดงาม
ที่นี่ ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม และทอออกมาเป็นผืนผ้าสวยงามอย่างครบวงจร การได้มาเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ผมได้เรียนรู้วิถีชาวบ้านที่นับว่าดีต่อใจทั้งผู้มาเยือนและผู้อยู่เหย้า
บ้านสนวนนอก มีโฮมสเตย์น่ารักน่าพักให้แรมคืนอย่างอบอุ่นและสบายใจ
ต้นหม่อน ที่พบเห็นได้ทั่วไปในบ้านสนวนนอก
ตัวดักแด้ ผู้สร้างไยไหมคุณภาพเยี่ยม เลี้ยงในมุ้งอย่างดี
ชาวบ้านสนวนนอก นอกจากทำนา มีอาชีพเสริมคือปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้าไหม
เดินชมวิถียามเช้า
ที่ บ้านสนวนนอก นอกจากผู้ไหมยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย พื้นที่รอบๆหมู่บ้านยังมีเรือกสวน ไร่นา ลักษณะของชุมชน ที่ส่วนใหญ่ยังคงใช้วิถีชีวิตแบบอิงธรรมชาติ บ้านส่วนเรือนใหญ่เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง แบบเรือนไทยอีสานโบราณ บางบ้านใช้ใต้ถุนเป็นที่นั่งพักผ่อน พบคุยพูดปะ และยังจัดสรรบางส่วน กั้นไว้เป็นคอกไว้สำหรับเลี้ยง วัว ควาย
ซุ่มประตูด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้าน สนวนนนอก
ป้ายบอกทางไปชมจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของหมู่บ้าน
ที่สำคัญ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้การทอผ้าไหมประจำอำเภอห้วยราช จึงทำให้มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมกันแทบจะทุกครัวเรือน เมื่อผมมาเที่ยวที่นี้ ผมจึงได้เห็นขั้นตอนการเลี้ยงไหม ปลูกหม่อน จนถึงการนำเส้นใยไหมมาทอเป็นผ้าอันสวยงาม
มีผู้เฒ่า ผู้แก่ในหมู่บ้าน "สนวนนอก" เล่าให้ฟังว่า เดิมหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองโบราณ พื้นที่เป็นเนินดินรูปทรงกลมมีกำแพงดิน และคูน้ำล้อมรอบ ถึง 3 ชั้น แต่ปัจจุบันไม่บรรจบกัน เนื่องจากติดกับลำห้วย ปัจจุบันคูน้ำโบราณปรากฏร่องรอยให้เห็นเพียงเล็กน้อย เพราะถูกทำลายโดยชาวบ้านสร้างที่อยู่อาศัยทับ และในการทำเกษตรกรรม ทำให้คันดินอยู่ในสภาพที่เหลือให้เห็นเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยบริเวณคันดินนี้จะมีขี้ตะกรันทับถมอยู่เป็นจำนวนมาก
วิถีชาวบ้านสนวนนอก
หลักฐานทางโบราณคดีที่พบ และทำให้รู้ว่าบ้านสนวนนอกแห่งนี้เป็นเมืองเก่า ได้แก่ คันดินโบราณ คูน้ำโบราณ เศษภาชนะกระเบื้อง ขี้ตะกรันจากการถลุงโลหะ ไหโบราณบรรจุกระดูก หินทราย อิฐและโบสถ์โบราณที่ทำด้วยดินดิบ
ร้านค้าในหมู่บ้าน
เดินชิลล์ ชิลล์ ชมวิถีบ้านสนวนนอก
ศาลหลวงปู่อุดม ที่ชาวบ้านสนวนนอก เคารพนับถือ
วัดสนวนนอก
ผมเดินชมวิถีชีวิตยามเช้า ชมบ้านเรือน ของชาวสนวนนอก ไปเรื่อย จนเดินมาถึงซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ วัดสนวนนอก เป็นวัดใหญ่วัดหนึ่งประจำอำเภอห้วยราช โดยมีพระครูประจิตรสีลคุณ เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะอำเภอห้วยราช อีกด้วย
วัดสนวนนอก เดิมชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดอิสาน เพราะที่ตั้งของวัดเฉียงไปทางทิศอิสานของหมู่บ้าน ต่อมาเห็นว่าชื่อวัดไปซ้ำกับอีกหลายวัดในภาคอิสาน เลยเปลี่ยนตามชื่อหมู่บ้าน คือวัดสนวนนอก และยังมีอีกวัดที่ตั้งอยู่ด้านในลึกเข้าไปยังหมู่บ้าน ให้ชื่อวัดนั้นว่า วัดสนวนใน
ภายในวัดสนวนนอก แปลกมาก เพราะมีโบสถ์ สร้างตั้งครู่กันอยู่ 2 หลัง ภายในมีพระประธานสวยงาม พระในวัดวัดบอกว่า มักมีหนุ่มสาวพากันมากราบไหว้ขอพร พระในโบสถ์ทั้ง 2 หลัง เชื่อว่าจะได้อยู่คู่กันไปนานๆ หรือตลอดไป
พระอุโบสถคู่ วัดสนวนนอก
พระประธานภายในพระอุโบสถ
วัดสนวนนอก
ทำบุญ และทานข้าวร่วมกับชาวบ้านที่วัดสนวนนอก
ในโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ บ้านสนวนนอก ผมในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง มีโอกาสร่วมไปทำบุญ ที่วัดสนวนนอก หลังจากทำบุญเสร็จ ได้ร่วมรับประทานอาหารกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ และชาวบ้าน อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นบ้าน ซึ่งมีรสชาดอร่อยมาก ของหวาน ผักแนม ผลไม้ มีตามฤดูกาล
อาหารบางส่วน ที่ร่วมรับประทานกับชาวบ้านที่วัดสนวนนอก
นั่งรถกระสวย ไปชม...ตลาดโบราณ
หลังจากกินข้าวในวัด กันจนอิ่มหนำสำราญ ไหว้พระในโบสถ์เรียบร้อย รถกระสวย ประจำหมู่บ้าน ก็มารับไปชม "ตลาดโบราณ"
ที่ตลาดโบราณ ในหมู่บ้าน ...ชาวบ้านจะนำผลิตภัณฑ์สินค้าของชุมชน ทั้งพืช ผัก ผลไม้ ขนม อาหารพื้นบ้าน ผ้าไหม เครื่องจักสาน ฯลฯ มาจัดจำหน่ายให้ผู้มาเยือนหรือนักท่องเที่ยว ได้เลือกซื้อในราคาย่อมเยา
รวมทั้งได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่ดั้งเดิมของชาวบ้าน ชมการสาวไหม การทอผ้าไหม การทำขนมโบราณโดยเฉพาะ "ขนมตดหมา" ที่เป็นขนมโบราณหาทานยากในปัจจุบัน
นั่งรถกระสวย ไปชมตลาดโบราณ
ตลาดโบราณ บ้านสนวนนอก
"ขนมตดหมา" ขนมโบราณหาทานยากในปัจจุบัน
บนบ้านโบราณ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ ตลาดโบราณ
ผ้าไหม ลาดลายสวยงาม สินค้าขึ้นชื่อของบ้านสนวนนอก
ชาวบ้านนำผลิตภัณฑ์สินค้าที่ผลิตในชุมชน มาวางจำหน่ายใน "ตลาดโบราณ"
ก่อนเดินทางกลับผมมีโอกาส เดินไปเที่ยวทางด้านท้ายของหมู่บ้าน ที่นั่นมีทุ่งนากว้างใหญ่สวยงาม มีสะพานข้ามลำห้วย ไปเดินชิลล์ ชิลล์ ตามท้องนา ที่นี่เห็นว่าจะเห็นพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม ...เสียดาย ที่เมื่อวานเดินทางมาถึงซะดึก เลยอดชม
อ้อ! ที่บ้านสนวนนอก นอกจากมีโฮมสเตย์ ไว้คอยบริการแล้วยังมี บ้านสนวน รีสอร์ท ใหญ่โตโอ่อ่าสวยงาม ติดลำห้วยมองเห็นท้องนาด้านหลังสวยงาม และยังมีสระว่ายน้ำอีกด้วย นักท่องเที่ยวท่านใดไม่สะดวกพักโฮมสเตย์ จะมาติต่อพักรีสอร์ท แห่งนี้ก็ไม่ผิดกติกา เพราะอยู่ในหมู่บ้านเช่นกัน
ท้ายหมู่บ้านด้านทิศตะวันตก มีทุ่งนารีสอร์ท สวยงาม
บายศรีสู่ขวัญ
หลายคนคงคิดว่าเที่ยวบ้านสนวนนอก จนใกล้ถึงเวลาจะเดินทางกลับอยู่แล้วพึ่งจะมาทำพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับ นักท่องเที่ยวเข้าสู่บ้านพักโฮมสเตย์บ้านสนวนนอก...ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
จริงๆ แล้วพิธี บายสีสู่ขวัญ มีตั้งแต่ค่ำคืนแรก ที่คณะเราเดินทางมาถึงแล้วหล่ะครับ แต่ถึงดึกหน่อย เลยเอามาฉายเล่าสู่กันฟังในตอนท้ายๆ เหมือนหนัง สตาวอร์ นั่นแหละ ฮ่าาาๆๆ
ค่ำคืนวันวาน คณะเราเดินทางมาถึงดึก เหตุเพราะรถติด รถเสีย ...เวลาหายไปหลายชั่วโมง แต่มาถึงบ้านสนวนนอกดึกดื่นขนาดไหน ชาวบ้านก็ยังมายืนรอต้อนรับคณะเราอย่างยิ้มแย้มแจ่มใจ พร้อมต้อนรับสู่โฮมสเตย์อันอบอุ่น กับวิถีที่อบอวลไปด้วยอดีตกาล ที่ยังคงหลงเหลือรักษาไว้ ให้พวกเราได้สัมผัส
พิธีบายศรีสู่ขวัญ แกชาวคณะนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
พิธีบายสีสู่ขวัญเริ่มขึ้นหลังจากที่เรานั่งรับประทานอาหารบนขันโตก ที่เพรียบพร้อมไปด้วยอาหารพื้นบ้านรสชาดอร่อย พร้อมกับชมการแสดงพื้นบ้านจากชาวบ้าน และฟังเพลงกรันตรึมเพราะๆ จากวงดนตรีพื้นบ้าน
"พิธีบายศรีสู่ขวัญ" เป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของชาวอีสาน ที่ร่วมชื่นชมยินดี และปลอบใจให้เจ้าของขวัญจากคณะ ญาติมิตรและบุคคลทั่วไป พิธีนี้ทำให้เราซึ่งใจในการต้อนรับของชาวบ้าน ใครไม่เคยเห็น เคยร่วมอาจทำให้น้ำตาซึมได้เหมือนกัน
นั่งทานอาหาร พร้อมกับชมการแสดงพื้นบ้าน
สิ่งที่ขาดไม่ได้หากมาเที่ยวบ้านสนวนนอกคือการรับชมการแสดง "เรือมตร๊ด" หรือ "รำตร๊ด" ซึ่งเป็นการละเล่นพื้นบ้าน ของชาวอีสานใต้มาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นการละเล่นเพื่อความสนุกสนานในวันขึ้นปีใหม่ ของชาวไทยสมัยก่อน ที่ถือเอาเดือนเมษาของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นการบอกกล่าวให้คนในหมู่บ้านทราบว่าจะมีงานบุญ เชื่อกันว่าขบวนรำนี้เดินไปถึงบ้านหลังไหน ห้ามให้ผ่านเลยไป จะต้องให้ทั้งขบวนแวะเข้ามาในบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลกับผู้อาศัยในบ้าน
การแสดงพื้นบ้านของชาวบ้านสนวนนอก
การแสดง "เรือมตร๊ด" หรือ "รำตร๊ด"
นาย บุญทิพย์ กะรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านสนวนนอก กล่าวต้อนรับ
จังหวัดบุรีรัมย์ เมืองแห่งปราสาทหิน ที่ยิ่งใหญ่อลังการ เมืองแห่งภูเขาไฟ...และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่กำลังเติบโต ได้รับความสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พนมรุ่งและเมืองต่ำ, สนามไอ-โมบายสเตเดียม, ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, เพลา เพลิน, แหล่งหินตัด, เขื่อนลำนางรอง, ภูเขาไฟกระโดง ฯลฯ และอีกมากมาย ...แต่สถานที่ท่องเที่ยว วิถีไทย ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เมื่อมาเยือนบุรีรัมย์ คือ ...โฮมสเตย์ "บ้านสนวนนอก" ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
"ท่องเที่ยววิถีไทย...ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง...บ้านสนวนนอกบุรีรัมย์"
นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจไปท่องเที่ยวบ้านสนวนนอก และสถานที่อื่นๆ ในจังหวัดบุรัรัมย์ ติดต่อได้ที่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์
โทร : 0-446-66528
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น