หน้าฝน...หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอีกฤดูที่ไม่อยากขับรถออกไปตะลอนเที่ยวที่ไหน เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าช่วงอื่นๆ ด้วยสภาพถนนทุกเส้นเฉอะแฉะไปด้วยน้ำ ทำให้ถนนลื่นกว่าปกติ ทัศนวิสัยในการมองเห็นก็ลดน้อยลง ซึ่งยากที่จะควบคุมได้เพราะเป็นปัจจัยธรรมชาติ
สำหรับผมหน้าฝนไม่ใช่ปัญหา สำหรับการท่องเที่ยว...แต่ที่เป็นปัญหาคือมักจะเจอท้องฟ้าขมุกขมัว ตุ่นๆ เทาๆ เวลาลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพออกมาอาจจะไม่สวยเท่าที่ควร...แค่นี้แหละครับคือปัญหาของผม
หุ หุ...จะบอกอะไรให้หน้าฝนอย่างนี้แหละ คือฤดูกาลแห่งผลไม้หลากหลายชนิดกำลังสุกงอมงาม รสหวาน อร่อยกำลังเหมาะ กรอบนอกนุ่มใน ทางจังหวัดภาคตะวันออก...ระยอง จันท์ ตราด...กำลังรอผู้คนเดินทางไปลิ้มชิมรสอยู่ถึงในสวน...แม้กระทั่ง ริมทาง ร้านค้าของฝากก็มีมาขายอย่างมากมาย
ป่ะ!...ผมจะพาไป "ขับรถเที่ยวเลาะเล 'ยอง...ย่องสวนผลไม้...สบายๆ ริมหาด" แบบชิวๆ แวะชมวิถีชาวประมงบ้าง ชมวิวทะเลระยองงามๆ บ้าง... ตามมา ตามมา ตามผมมาเลยครับ
เช้าๆแวะกินข้าวต้มทะเล ที่ตลาดโบราณบ้านเพ
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง อ.แกลง จ.ระยอง
สำหรับผมหน้าฝนไม่ใช่ปัญหา สำหรับการท่องเที่ยว...แต่ที่เป็นปัญหาคือมักจะเจอท้องฟ้าขมุกขมัว ตุ่นๆ เทาๆ เวลาลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพออกมาอาจจะไม่สวยเท่าที่ควร...แค่นี้แหละครับคือปัญหาของผม
หุ หุ...จะบอกอะไรให้หน้าฝนอย่างนี้แหละ คือฤดูกาลแห่งผลไม้หลากหลายชนิดกำลังสุกงอมงาม รสหวาน อร่อยกำลังเหมาะ กรอบนอกนุ่มใน ทางจังหวัดภาคตะวันออก...ระยอง จันท์ ตราด...กำลังรอผู้คนเดินทางไปลิ้มชิมรสอยู่ถึงในสวน...แม้กระทั่ง ริมทาง ร้านค้าของฝากก็มีมาขายอย่างมากมาย
ป่ะ!...ผมจะพาไป "ขับรถเที่ยวเลาะเล 'ยอง...ย่องสวนผลไม้...สบายๆ ริมหาด" แบบชิวๆ แวะชมวิถีชาวประมงบ้าง ชมวิวทะเลระยองงามๆ บ้าง... ตามมา ตามมา ตามผมมาเลยครับ
บ้านผมอยู่พัทยา ไม่ไกล ไม่ไกล...ระยองแค่นี้เอง ขับรถจริงๆ ถ้าไม่ติดขยายเลนทำถนน หรือแยกไฟแดง...ขับไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง จากบ้านผมวิ่งไปบนถนนทางหลวงสาย 36 ผ่านตัวเมืองระยอง เลี้ยวขวาตรงแยกตะพง เข้าสู่ถนนเลียบชายหาดแม่รำพึง ขับกินลมชมวิวเรื่อยๆ มุ่งสู่ตลาดโบราณบ้านเพ...เห็นมั้ย ผมขับแป๊บเดียว ก็ได้ไปนั่งกินข้าวต้มทะเล อร่อยๆ ที่ตลาดโบราณบ้านเพแล้ว
การขับรถเลียบหาดนั้น ถือว่าเป็นการขับรถที่ง่าย และเพลิดเพลินที่สุดในบรรดาการขับรถเที่ยวทั้งหมด เพราะหนทางราบเรียบ อากาศดี เปิดกระจกรับลมทะเลได้เลย ...เย็นสบาย สร้างบรรยากาศชื่นมื่นเป็นที่สุด
การขับรถเลียบหาดนั้น ถือว่าเป็นการขับรถที่ง่าย และเพลิดเพลินที่สุดในบรรดาการขับรถเที่ยวทั้งหมด เพราะหนทางราบเรียบ อากาศดี เปิดกระจกรับลมทะเลได้เลย ...เย็นสบาย สร้างบรรยากาศชื่นมื่นเป็นที่สุด
แวะถ่ายภาพชมวิถี...ที่"หาดแม่รำพึง"
หากมีใครตั้งคำถามว่า หาดบนชายฝั่งที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดระยองได้แก่หาดอะไร ทุกคนคงตอบได้ถูกต้องเหมือนกันหมดคือ "หาดแม่รำพึง" หรือก้นอ่าว เพราะด้วยที่เป็นหาดเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย และเป็นชื่อที่ติดปากจดจำง่าย เมื่อผมคิดถึงทะเลระยองทีไรอหาดแม่รำพึงจึงเป็นหาดอันดับหนึ่งตลอดกาลที่อยู่ในใจผม
หาดแม่รำพึงเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ราวห้าร้อยเมตร ความยาวของหาดสุดลูกหูลูกตา คือยาวถึง 12 กม. จัดว่ายาวที่สุดของฝั่งทะเลตะวันออกเลยที่เดียว ตลอดสองฟากถนนและแนวหาดทรายรายเรียงไปด้วยร้านอาหารทะเล บังกะโลว์ รีสอร์ท โรงแรม คอนโดมิเนียม สิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมทางทะเลมีครบไม่ตกหล่น
หาดทรายที่นี่มีสีน้ำตาลละเอียดน้ำทะเลก็ใสลงเล่นได้สะดวก นอกจากบางจุดที่อันตรายก็จะมีป้ายบอกไว้ บรรยากาศหาดแม่รำพึงเย็นสบายด้วยลมทะเลและรื่นร่มด้วยแนวสน ช่วงกลางๆของหาดทางเทศบาลบ้านเพได้จัดสร้างสวนสาธารณะ เป็นสวนหิน(เรียกว่าลานหินขาว) เพื่อเป็นจุดชิมวิว และปูเสื่อปิคนิค จกข้าวเหนียวส้มตำใต้ต้นมะพร้าวสบายอารมณ์ไปเลย
ตรงท้ายหาดแม่รำพึงเป็นที่ตั้งของบ้านก้นอ่าว ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมง มีเรือประมงจอดกันเป็นกลุ่มๆ ใครสนใจในวิถีดั้งเดิมก็เดินถ่ายรูปเล่น จะเห็นชาวบ้านเย็บแหเย็บอวนหรือหาซื้อของทะเลไปกินได้ถูกๆ ที่นี้ถ้ามีเวลาอยู่จนเย็นจะเห็นตะวันลับขอบฟ้าที่แสนสวยงามแน่นอน
ลานหินขาว หาดแม่รำพึง
หาดบ้านเพ ...ตลาดโบราณบ้านเพ
หาดบ้านเพไม่ใช่ชายหาดสำหรับการพักผ่อนเล่นน้ำทะเลแต่ที่นี่เป็นทั้งท่าเรือและตลาดของฝากของที่ระลึกที่แสนคึกคัก บ้านเพเป็นทั้งจุดแรกเริ่มและจุดสุดท้ายของการไปท่องเที่ยวเกาะเสม็ด นักท่องเที่ยวต้องมาขึ้นเรือทั้งขาไปและขากลับที่ท่าเรือบ้านเพ พร้อมทั้งเลือกซื้อของฝากสินค้าพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป หอบหิ้วกลับบ้านกันเต็มสองมือ
ท่าเรือและตลาดโบราณบ้านเพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารและร้านมินิมาร์ท ที่พัก ลานรับฝากรถ เอทีเอ็ม บริษัททัวร์ บริการเรือเหมาลำ รถทัวร์ ฯลฯ ...บ้านเพจึงถือเป็นชุมชนใหญ่ของระยองที่คนไทยรู้จักดี
ตัวหาดบ้านเพเองมีความยาวกว่า 2 กม. บรรยากาศหรือทิวทัศน์ก็ไม่ได้น้อยหน้าหาดอื่น เป็นอีกจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย แต่ส่วนมากคนไม่คำนึงถึงจุดนี้นัก เพราะมีจุดเด่นอื่นๆ มาบดบังเสียหมด คนที่มาที่นี่ ถ้าเป็นคนท้องถิ่นเองมักจะมานั่งรับประทานอาหารตามร้านอาหารที่มีอยู่มากมาย ส่วนนักท่องเที่ยวก็จะรีบลงเรือไปเที่ยวเกาะเสม็ด กลับมาถึงบ้านเพอีกครั้งก็มักใช้เวลาหมดไปกับการเดินซื้อของฝาก ของที่ระลึกอย่าง กุ้งแห้ง กะปิ น้ำปลา ปลาเค็ม รวมถึงขนมนมเนยสารพัดมากกว่า
ตลาดโบราณบ้านเพถือเป็นศูนย์สินค้าของฝากขนาดใหญ่ที่คึกคัก มีชื่อเสียงมานานหลายศตวรรษ และถ้าใครอยากซื้อของทะเลสดๆ ก็เดินไปซื้อที่ตลาดสดที่ห่างจากท่าเรือไม่ไกลนักก็ได้
เช้านี้นักท่องเที่ยวยังไม่หนาแน่นผมแวะกินข้าวต้มทะเล แสนอร่อยก่อนเดินชมตลาด...ทำให้ผมมีโอกาสชมบรรยากาศ วิถีชาวบ้านเพ ที่ค้าขายจับจ่ายกันเอง เดินสูดกลิ่นเค็มคาวทะเล ที่โชยมาอ่อนๆ ยามเช้า มันเป็นอะไรที่ฟินจริงๆ กับตลาดโบราณ วิถีดั้งเดิมของชาวบ้านเพ ที่ยังคงหลงเหลือ ให้ผมได้สัมผัส
ตลาดโบราณบ้านเพ มากมายไปด้วยอาหารทะเลสด และแห้ง...หลากหลายจริงๆ
ออกจากตลาดโบราณบ้านเพ ผมไม่ลืมที่จะซื้อขนมทองพับ ขนมโบราณติดไม้ติดมือไว้ไปนั่งกินกับกาแฟ ในร้านกาแฟบรรยากาศชิวๆ ริมทะเลหาดสวนสน
นั่งจิบกาแฟชิลล์ๆที่...หาดสวนสน
ชายหาดบ้านเรามักเต็มไปด้วยแนวต้นสน ผมสังเกตุว่ามักจะมีชื่อ"หาดสวนสน"ซ้ำๆกันอยู่หลายจังหวัด สำหรับสวนสน จังหวัดระยอง มีจุดเด่นกว่าที่อื่นคือ ต้นสนจะยืนต้นเรียงรายอยู่สองฟากถนนเลียบหาด กิ่งก้านสนโน้มเข้าหากัน โอบคลุมถนน มองดูเหมือนอุโมงค์ธรรมชาติ ถือเป็นเส้นทางที่สวยงามที่สุดของจังหวัดระยองเลยก็ว่าได้ ผมมักจะเห็นผู้คนขับรถมาบนถนนเลียบชายหาดนี้แล้วแวะจอดรถใต้ต้นเงาสน พักผ่อนรับประทานอาหารริมหาดอย่างมีความสุข...ส่วนผม เช้านี้ขอนั่งที่ร้านกาแฟ ชิลล์ๆริมหาดสักพักก่อนครับ แล้วค่อยเดินทางกันต่อ
อุโมงค์ต้นสน สวยงาม
แวะกินกาแฟกับขนมทองพับ ริมทะเลระยองบริเวณ หาดสวนสน
หาดสวนสนหรืออีกชื่อหนึ่งคือสวนรุกขชาติเพ เป็นหน่วยงานสังกัดกรมป่าไม้ สนแต่ละต้นอายุหลายสิบปีที่ต้องดูแลและอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ตัวหาดทรายสีน้ำตาลเชื่อมต่อกับหาดบ้านเพ มีความยาวราว 4 กม. น้ำที่นี่ใสเหมาะแก่การเล่นน้ำ แต่คลื่นลมค่อนข้างแรง เด็กๆอาจต้องระวังสักนิดครับ
ใครไปเที่ยวหาดสวนสนยามเย็นอย่าลืมชมพระอาทิตย์ตกโดยมองลอดต้นสนที่เรียงรายออกไป ภาพที่เห็นจะน่าประทับใจ กว่าหลายๆหาดเลยหล่ะครับ
ตลาดสวนสน...ตลาดอาหารทะเลสดๆ จากเรือประมงพื้นบ้าน
ขับรถเลยหาดสวนสนมาหน่อย จะมองเห็นเต้นท์ผ้าใบ มีเรือประมงพื้นบ้านจอดกันเรียงรายตลอดแนวชายหาดยาวประมาณ 100 เมตร ที่นี่จะเป็นจุดจอดเรือของชาวประมงพื้นบ้านที่ออกทะเลไปหากุ้ง หอย ปู ปลา แล้วนำกลับเข้าสู่ฝั่ง...และจะมานั่งแกะออกจากอวนขายกันสดๆ ถูกๆ ตรงนั้นเลย...บางเจ้าจะมีพ่อค้า แม่ค้าในตลาดมารอรับซื้อไปขายต่ออีกที ...แต่ที่ใส่กะลามัง ใส่ถาดวางขาย ก็ใช่ย่อย สดๆ ถูกๆทั้งนั้น ชาวบ้านเรียกตลาดอาหารทะเลสดๆ แห่งนี้ว่า ตลาดสวนสน หรือ ตลาดต้นสน
ปูม้า ปูเนื้อ หมึกสารพัดชนิด ปลากระเบนตัวเล็กๆ ปลาฉลามทราย ปลาเก๋า ปราทราย(เห็ดโคน)ฯลฯ ใครผ่านไปเส้นทางนี้สนใจอาหารทะเลสดจอดรถลงไปเลือกซื้อได้เลย นำไปปิ้งย่างยังที่พัก หรือจะใส่กล่องโฟมแช่น้ำแข็งกลับไปทำที่บ้านก็ยังสดแถมราคาถูกใจหาย...หรือจะให้ชาวประมง ที่นำมาวางขายปิ้งย่างหรือนึ่งให้กันตรงนั้น ได้เลย มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด วางขายอีกด้วย
บอกก่อนตลาดอาหารทะเลสดสวนสนแห่งนี้ต้องไปเช้าหน่อยสักก่อนเที่ยง จะได้ของสดๆ หลังจากนี้ตลาดอาจจะวายได้ครับ
บรรยากาศบริเวณ ตลาดต้นสน (สวนสน)...ตลาดอาหารทะเลสดๆ จากเรือ
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง...แหล่งเรียนรู้ของเก่า ของสะสมโบราณ
ผมขับรถ เลาะริมทะเลระยอง เข้าสู่อำเภอแกลง ผ่านแยกอนุสาวรีย์สุนทรภู่ ได้ไม่ไกล ก็เจอกับพิพิธภัณฑ์ "บ้านครูกัง" แหล่งเก็บรวบรวมของเก่า ของโบราณ ที่หาชมได้ยากหลากหลายชนิด
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง โดย "ครูกัง" ผู้เป็นเจ้าของใช้เวลาสะสมของเก่านานกว่า 40 ปี ได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ เริ่มต้นเนรมิตบ้านของตนเองบนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า ครูไม่อยากเก็บไว้ดูเพียงคนเดียว ใครอยากไปชื่นชม"พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง" เขาเปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. โดยมีค่าเข้าชมเริ่มตั้งแต่ กำนัน 190 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง ติดกับถนนสุนทรภู่ 3161 ใกล้กับต้นเลียบ (ตลาดนัดต้นเลียบ) ถ้าเดินทางมาจากแกลงระยะทางประมาณ 10 กม. ก่อนถึงอนุสาวรีย์สุนทรภู่ 1 กม. ครูกังจะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทุกวัน
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง โดย "ครูกัง" ผู้เป็นเจ้าของใช้เวลาสะสมของเก่านานกว่า 40 ปี ได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ เริ่มต้นเนรมิตบ้านของตนเองบนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า ครูไม่อยากเก็บไว้ดูเพียงคนเดียว ใครอยากไปชื่นชม"พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง" เขาเปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. โดยมีค่าเข้าชมเริ่มตั้งแต่ กำนัน 190 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง ติดกับถนนสุนทรภู่ 3161 ใกล้กับต้นเลียบ (ตลาดนัดต้นเลียบ) ถ้าเดินทางมาจากแกลงระยะทางประมาณ 10 กม. ก่อนถึงอนุสาวรีย์สุนทรภู่ 1 กม. ครูกังจะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทุกวัน
ครูกัง เจ้าของ "พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง" อ.แกลง จ.ระยอง
ครูกังบอกว่าชีวิตหลังเกษียณมันเหงา เลยอยากหาอะไรทำแก้เหงา จึงรวบรวบของเก่า ของโบราณที่ตัวเองชอบและสะสมไว้ มีเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ครูกังและภรรยา จะดูแลพิพิธภัณฑ์ แห่งนี้เองทั้งหมด ตั้งแต่เปิดจนกระทั่งทำความสะอาด ใครจะมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นหมู่คณะ หรือจะมาถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือจะแต่งกายแบบโบราณ มาถ่ายรูป ก็มากันได้เลย...ครูกังเป็นคนอารมณ์ดีมาก เป็นกันเอง ต้อนรับทุกคนที่ไปเยือนอย่างดี...ใครไปเที่ยวระยอง แถวๆ อ.แกลง อย่าลืมแวะชม "พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง" ได้ทุกวันเลยครับ รับประกันความประทับใจ ในของเก่าโบราณทุกๆชิ้น ในบ้านแห่งนี้...สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 087-1299405 ครับ
ใน"พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง" มีร้านกาแฟสดในบรรยากาศโบราณย้อนยุค ไว้คอยบริการด้วยครับ
ไปชิมผลไม้...ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัย...บ้านสองสลึง
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง ผมขับรถเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 3163 มุ่งหน้าออกสู่ถนนสุขุมวิท ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที ก็มาถึงศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมปลอดภัย บ้านสองสลึง แล้ว ที่ศูนย์แห่งนี้มีจุดให้เข้าไปชม ชิม แช๊ะ ช๊อป ถึง 5 จุด
ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยบ้านสองสลึงนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยความสามัคคีร่วมใจของชาวบ้านซอยชาวสวน 1 จาก 3วิสาหกิจชุมชนกับอีก 1 รีสอร์ทท่องเที่ยว ได้กลายมาเป็นศูนย์ท่องเที่ยวที่พร้อมจะถ่ายทอดวิถีชีวิตเชิงเกษตร และเรื่องราวอันน่าสนใจของจุดดูงานต่างๆ และพร้อมจะให้ผู้สนใจเรียนรู้ได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราวและร่วมปฎิบัติไปพร้อมๆกัน
เพื่อนๆตามผมไปดูกันว่าแต่ละจุด มีอะไรให้เที่ยวชมบ้าง
จุดที่1 การทำทุเรียน GAP และฟักข้าว
พอขับรถผ่านวัดสองสลึง ได้ไม่ไกล ผมก็เจอจุดที่ 1 จุดนี้จะมีการทำสวนทุเรียนและมังคุดที่ได้รับการรับรองระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) ด้วยความมุ่งมั่นของคุณไพโรจน์ ที่จะมุ่งสู่เกษตรอินทรีย์ในอนาคต และจุดนี้ยังมีฟักข้าว สุดยอดพืชสารพัดประโยชน์...ตรงจุดนี้มีน้ำฟักข้าว รสชาติอร่อยให้ชิม และยังมีน้ำไผ่ น้ำเพื่อสุขภาพให้ลองชิมอีกด้วย หรือใครจะชมการผลิตโลชั่นจากตะไคร้หอม จะซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝาก ก็มีไว้ให้บริการเหมือนกันครับ
ผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร หลากหลายชนิต
วุ้นฟักข้าว
น้ำฟักข้าว กินแล้วชื่นใจ
น้ำไผ่
ซอสฟักข้าว
คุณไพโรจน์ คอยให้คำแนะนำให้ความรู้ในจุดที่ 1
จุดที่ 2 การทำสละ GAP และ สมุนไพร
ออกจากจุดที่ 1 ขับรถเข้าไปตามซอยของหมู่บ้านไปยังจุดที่ 2 เป็นเรื่องของการทำสละ ผมได้เห็นและได้สัมผัสกับต้นสละจริงๆ ในจุดที่ 2 นี่แหละ...จุดนี้เป็นสวนสละคุณจินดา ผมได้ลิ้มชิมรสสละพันธ์สุมาลีที่หอมหวานสดๆจากต้นกันเลยทีเดียว
ตรงจุดนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยสองสลึง อีกด้วย เป็นสถานที่ศึกษาดูงานท่ามกลางธรรมชาติสวนสละ และถ่ายทอดวิถีชีวิตชาวสวนผลไม้ให้ทุกคนได้เรียนรู้
เจ้าของสวนสละคุณจินดา
เก็บกินสดๆจากต้น
จุดที่ 2 การทำสละ GAP (สวนสละคุณจินดา)
จุดที่ 3 การเพาะเห็ดและแปรรูป
การขับรถท่องเที่ยว ชมแต่ละจุดของ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยบ้านสองสลึง ง่ายมากครับ เพราะแต่ละจุดจะมีป้ายใหญ่ๆ ติดตั้งบอกเราไว้อย่างชัดเจน และแต่ละจุดก็ไม่ห่างกันมาก บรรยากาศก็ร่มรื่น ขับรถเพลินมากครับ
จุดที่ 3 เราจะได้เรียนรู้วิธีการเพาะเห็ดตั้งแต่การทำเป็นก้อนจนกระทั้งกลายมาเป็นดอกเห็ดให้เรารับประทานทุกวันได้อย่างไร...ตรงจุดนี้จะมีวิทยากรจากวิสาหกิจชุมชนบทบาทสตรีเพาะเห็ด ที่มากด้วยประสบการณ์ มาแนะนำวิธีการทำ การดูแล การเก็บเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ
เมื่อเรียนรู้แล้วใครอยากจะซื้อก้อนเชื้อเห็นแต่ละสายพันธุ์ กลับบ้านเพื่อไปเพาะไว้รับประทานเอง หรือจำหน่าย ที่ศูนย์แห่งนี้ ในจุดที่3 ก็มีไว้ขายให้เราเหมือนกันครับ
จุดที่ 3 การเพาะเห็ด และแปรรูป
วันที่ผมเดินทางไป พลาดไม่ได้เข้าชมจุดที่ 4 เห็นว่ามีการปิดปรับปรุง ซึ่งจุดนี้ เป็นการแปรรูปสละ เราจะได้เ็นขั้นตอนการทำสละลอยแก้ว ด้วยโรงผลิตที่สะอาดและมีมาตรฐาน ผมจึงขับรถเข้าไปยังจุดที่ 5 ซึงเป็นจุดสุดท้าย ของศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยบ้านสองสลึง
จุดที่ 5 การทำทุเรียน และสมุนไพร
จุดนี้พอขับรถเข้าไป ก็ได้กลิ่นทุเรียนหอมๆลอยมาเตะจมูกอย่างจัง ผมได้เห็นต้นทุเรียนใกล้ๆ ต้นเป็นๆ ครั้งแรกก็ตรงจุดนี้ นี่แหละ จุดที่ 5 นี้บรรยากาศดีมากติดภูเขามีศาลาริมน้ำ ที่เป็นบึงขนาดใหญ่ เจ้าของสวนทุเรียนแห่งนี้คอยต้อนรับอย่างดียิ้มแย้มแจ่มใสทั้งลุงถิงและคุณเอ๋ ที่มีความจริงใจสไตล์ชาวสวนที่พร้อมให้ความรู้ในการทำทุเรียนและสวนผสมไม่ว่าจะเป็นกระท้อนและมังคุด เงาะ
ที่สวนแห่งนี้ ผมได้เห็นวิธีการเก็บทุเรียน ได้เรียนรู้วิถีชาวสวน ...อ่อ! คุณเอ๋ บอกว่า ที่นี่สามารถรับผู้เยี่ยมชมที่มาเป็นหมู่คณะ พร้อมจัดอาหารกลางวันพื้นบ้านของจังหวัดระยองให้ได้รับประทาน ท่ามกลางบรรยากาศริมบึงน้ำและขุนเขา ได้ด้วยครับ
คณะผู้เยี่ยมชม สนใจติดต่อ ได้ที่ คุณเอ๋ โทร : 0972304488 และ 0843629771
ลุงถิง เจ้าของสวนทุเรียน ในจุดที่ 5
กลุ่มชาวสวน ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยบ้านสองสลึง
ผมขับรถชิลล์ๆ เลาะเลียบทะเล ระยอง ชมความงามมาเรื่อยๆ จนมาจบลงที่ สวนผลไม้ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกตรปลอดภัยบ้านสองสลึง ซึ่งบรรยากาศดีมาก ชาวบ้านที่นี้คุยสนุกเป็นกันเองให้การต้อนรับเป็นอย่างดี...ที่แน่ๆคือ ผลไม้ที่นี่มีรสชาดอร่อยทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสละ ทุเรียน ทั้งสดจากต้นและแปรรูป
ชายหาดในฝั่งทะเลตะวันออก นั้นเป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับการขับรถชิลล์ท่องเที่ยว เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ในอดีต เป็นเมืองตากอากาศที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ได้สะดวก ประหยัดเวลาและสามมารถมาเที่ยวได้บ่อยๆ รวมทั้งยังมีรีสอร์ทที่พักมากมายให้เลือกหลากหลายบรรยากาศ...ถ้าขับรถเลาะเที่ยวไปเรื่อยๆจันถึงจันทบุรี ตราด ยิ่งเพลิดเพลินไปใหญ่...ไว้ลองขับรถเลาะเที่ยว เล'ยอง แบบผมดูสิครับ...เพลิน และชิลล์ จนไม่อยากกลับบ้าน กันเลยทีเดียว
วันนี้ขอเข้าที่พัก โรงแรม RAYONG MARRIOTT RESORT & SPA ก่อนครับ...โรงแรมนี้ ขอบอกว่าสุดชิลล์ น่าพักมากติดริมทะเล...แล้วผมจะมารีวิว ให้เพื่อนๆชมครับ ว่าสุดชิิลล์ น่าพักอย่างไร
ขอขอบคุณ
ททท.จังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน
โรงแรม RAYONG MARRIOTT RESORT & SPA
กลุ่มชาวสวน ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยบ้านสองสลึง
และ พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง
ติดตาม"ชายสามหยด"ได้ที่
https://www.facebook.com/soksagtravelling/
https://www.facebook.com/soksagtravelling/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น