ท่องเที่ยวเชื่อมโยง...ตราด-เกาะกง
"ตราด"...เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสัมผัสถึงความหลากหลายทางธรรมชาติ เมืองแห่งเกาะครึ่งร้อย ซึ่งเต็มไปด้วยเกาะและหาดสวยงามมากมาย และเส้นทางที่สุดทางบูรพา เชื่อมต่อสู่เกาะกง กัมพูชา เสมือนเป็นประตูเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ...จังหวัดตราดไม่ได้มีแค่หมู่เกาะอันลือชื่อและชายหาดสวยงาม...แต่ตราดมีมากกว่ากว่านั้น
จังหวัดตราด เป็นหนึ่งในหลายจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับตั้งแต่สมัยประเทศสยามต้องเสียดินแดนจังหวัดตราดไปชั่วคราว และโดยความปรีชาสามารถของพระบาทสมดเ็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงนำตราดกลับคืนสู่...ประเทศสยาม จนสำเร็จและถ้าเราได้ศึกษาความเป็นมา ประวัติศาสตร์อันยาวนานของจังหวัดตราดก่อนเดินทางท่องเที่ยวจะทำให้เราได้อรรถรสไม่น้อย...แล้วการเดินทาง สุดทางบูรพา...เมืองท้ายสุดในดินแดนตะวันออกของไทย สนุกมากยิ่งขึ้น
พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด
ก่อนเดินทางเลาะขอบทะเลตราดสู่เกาะกง ผมแนะนำให้แวะไปชม พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด ที่ตั้งอยู่บนถนนสันติสุข อำเภอเมือง จังหวัดตราด ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวตราด รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ส่งเสริมเผยแพร่มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรม
อาคารพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด เดิมคืออาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่า เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูงหลังคาทรงปั้นหยา ภายในอาคารจัดเป็นห้องนิทรรศการ เราจะเห็นมรดกธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งตราด, วิถีชาวตราดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน, ได้เห็นโบราณคดีและประวัติศาสตร์เมืองตราด ,เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับตราด ,เหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง รูปแบบเรือรบของไทยและฝรั่งเศสและยังจัดแสดงตลาดเมืองตราดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นิทรรศการ(บางส่วน)ที่จัดแสดงภายใน อาคารพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด
แวะชมวัด...บุปผาราม
ที่ อ.เมือง ตราด ผมยังมีโอกาสได้แวะไปชมวัดบุปผาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดตราด วัดแห่งน้เป็นแหล่งรวบรวมหลักฐานทางโบราณคดีมากมายหลายอย่าง และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าในตัวเมืองตราด
วัดบุปผารามสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ.2191) พิพิธภัณฑ์ในวัดแห่งนี้จะจัดแสดง ถ้วยโบราณ ทั้งของจีน ยุโรป และไทย แสดงให้เห็นว่าตราดเป็นเมืองสำคัญในการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ วิหารที่เก่าแก่ มีจิตรกรรมฝาผนังศิลปะจีนอันแสดงให้เห็นว่าช่างจิตรกรรมในสมัยนั้นเป็นชาวจีน หรืออาจเป็นชาวจีนที่เป็นผู้อุปถัมภ์วัดบุปผารามแห่งนี้
พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงในวัดบุปผาราม จ.ตราด
ในวัดบุปผารามยังมีภาพวาดเก่าแก่ ของในหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งวาดโดยศิลปินชาวยุโรป เป็นภาพวาดต้นแบบที่หาชมได้ยาก เป็นหนึ่งใน 5 ภาพของเมืองไทย ถ้ามีโอกาส...แวะไปชมได้ที่วัดบุปผาราม จังหวัดตราด
ภาพวาดรัชกาลที่ 5 เป็นภาพเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก
พระุทธรูปไม้องค์ใหญ่
ในวัดมีอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน บนศาลา
ภายในวัดบุปผาราม วัดเก่าแก่ที่สุดของ จังหวัดตราด
วัดบุปผารามได้รับรางวัล อาคารอนุรักษ์ดีเด่น
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่วาดโดยช่างชาวจีน
กุฏิโบราณ ภายในวัดบุปผาราม
ชุมชนบ้านไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
ถนนสุขุมวิท...ที่ทอดยาวจากกรุงเทพมหานคร เลาะริมขอบทะเลตะวันออก ก่อนพ้นด่านชายแดนบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ เข้าสู่ จังหวัดเกาะกงประเทศกัมพูชา เราจะผ่าน "บ้านไม้รูด" ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเล จังหวัดตราด ...ที่นี่คือจุดดูแมงกระพรุนหลากสี ที่โด่งดังของเมืองไทยนั่นเอง
"บ้านไม้รูด" มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติมาก ชาวบ้านยังใช้ชีวิตในวิถีเดิมๆ ยังคงยึดอาชีพประมงพื้นบ้าน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตและวิถีการผลิตที่พึ่งพิงกับทรัพยากรธรรมชาติ
ชุมชนบ้านไม้รูดสามารถสืบสานความเป็นชุมชนแหล่งท่องเที่ยวควบคู่กันไป นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บ้านไม้รูดยังมีนิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านไม้รูด (Eco Museum of Mairoot) นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมความงามของแมงกะพรุนได้ตามกระแสน้ำและกระแสลมของทะเลตราดได้ตลอดเส้นทาง หาดเล็กคลองใหญ่
ที่ อบต.บ้านไม้รูด เรามีโอกาสพบปะกับผู้นำชุมชน และผู้บริหาร อพท. ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการ อพท.และ คุณสุธารักษ์ สุนทรวิภาต รักษาการผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง(อพท.1)
ซึ่งคุณสุธารักษ์ สุนทรวิภาต ได้บอกกับเราว่า ทาง อพท.ได้มีการลงนามความร่วมมือในสัญญา(MOU) กับจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนของทั้ง 2 ประเทศ
ที่ผ่านมา ทาง อพท. ได้พัฒนาศักยภาพของชุมชนให้มีความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยว ล่าสุดได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 2 เส้นทางเชื่อมระหว่างตราด-เกาะกง ได้แก่เส้นทางตราด-แหลมกัด-หาดเล็ก-เกาะกง (ป่าโกงกางบางคายัค) และเส้นทางตราด-บ้านไม้รูด-หาดเล็ก-เกาะกง(น้ำตกตาไต) เป็นเส้นทางที่ผมกำลังนำเพื่อนๆ เที่ยวไปด้วยกัน
ที่บ้านไม้รูดมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชุมชนมากนัก ถือเป็นสถานที่ที่มีความแปลกเป็นอย่างมากอย่างมากคือ หาดทรายสองสี และ บ่อญวน
หาดทรายสองสี...มหัศจรรย์บ้านไม้รูด
นอกจากความสมบูรณ์และสดของธรรมชาติของหาดทรายบ้านไม้รูดแล้ว ผมยังรู้สึกทึ่งเมื่อได้เห็นหาดทรายสองสี อยู่ในบริเวณเดียวกัน... เมื่อเดินลงสู่ชายหาดหันหน้าลงสู่ทะเล เราจะเห็นผืนทรายละเอียดสีแดงอยู่ทางซ้ายมือ แลผืนทรายละเอียดสีขาวอยู่ทางขวามือ
นอกจากความแปลกตาของหาดทรายแล้ว ชายหาดบ้านไม้รูดยังมีต้นโกงกางขึ้นเรียงรายแซมกับโขดหินสวยงาม เสียวันผมไปฝนตก เลยได้ภาพมาฝากเพื่อนๆ ไม่ค่อยแจ่มสักเท่าไหร่ ถ้าฟ้าเปิดตรงชายหาดแห่งนี้ น่าจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามอีกจุด
หาดทรายสองสี บ้านไม้รูด
บริเวณ หาดทรายสองสี ต้นโกงกางขึ้นสวยงามมาก
บ่อญวน...บ่อน้ำจืดริมทะเล
บ่อญวน...เป็นอีกแห่งเมื่อไปเยือนบ้านไม้รูดแล้วไม่ควรพลาดที่จะต้องไปชมและพิสูจน์ เราเดินเลาะริมทะเลผ่านโขดหินต้นโกงกางจากชายหาดสองสีไปประมาณ 500 เมตร เราก็จะเจอกับ "บ่อญวน" ที่อยู่ริมทะเลหลังวัดไม้รูด บ่อญวนแห่งนี้ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ในจำนวนไม่กี่แห่งเพราะเป็นบ่อน้ำจืดที่อยู่ติดริมทะเล จุดท่องเที่ยวบ่อญวนยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยเวียดนามส่งทหารมาขับไล่ฝรั่งเศสที่เกาะกงเกิดขาดแคลนน้ำ จนมาพบบ่อน้ำจืดมหัศจรรย์ติดริมทะเลแห่งนี้...ที่บ้านไม้รูด
บ่อญวน บ่อน้ำจืดริมทะเลบ้านไม้รูด
ที่บ้านไม้รูดนอกจากมีธรรมชาติสวยงาม มีสถานที่มหัศจรรย์ให้เราได้ชมแล้ว ยังมีก๋วยเตี๋ยวกั้ง ก๋วยเตี๋ยวทะเล อร่อยๆอีกด้วย และยังมีของฝากซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของชาวชุมชนบ้านไม้รูด ทำมาขายอีกด้วย โดยเฉพาะกะปิ ของที่นี่หอม อร่อย เป็นกะปิดีที่บรรจุในถ้วยเบญจรงค์สวยงาม เป็นของฝากที่เก๋ไก๋ จนอดใจไม่ไหว ที่จะซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากญาติสนิทมิตรสหาย
ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ที่บ้านไม้รูด อร่อยมาก
ของฝาก จากบ้านไม้รูด
ชุมชนบ้านไม้รูด...เป็นชุมชนนักอนุรักษ์ ที่มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่านอกจากการจับมากินมาขายแล้ว ยังปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ชาวบ้านไม้รูดส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ที่นี่ยังมีกิจกรรม ปล่อยปูม้า ล่องเรือชมป่าโกงกาง ฯลฯ
นอกจากนี้ ที่บ้านไม้รูดยังมีโฮมสเตย์ ที่พึ่งสร้างใหม่ใกล้ชุมชนมองเห็นวิถีพื้นบ้าน...ไปอาศัยอยู่กับธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าทำให้มีปี มีปลา มีหอย ให้ลูกหลานอย่างยั่งยืน ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกฤดูกาล
กิจกรรมปล่อยปูม้า คืนสู่ท้องทะเล
ชุมชนบ้านไม้รูด กับวิถีที่ยั่งยืน
ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก
สุดแผ่นดินไทยปลายทางหลวงหมายเลข 3 พรมแดนไทย-กัมพูชา บรรจบกันที่บ้านหาดเล็กแห่งนี้ ซึ่งตรงกับอำเภอเกาะกง ประเทศกัมพูชา เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายทั้ง สวนสัตว์ น้ำตกและทะเล และยังเป็นจุดข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชาอีกด้วย
สำหรับคนไทยหากต้องการผ่านแดนเข้าประเทศกัมพูชาในช่องทางนี้ สามารถทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวเพื่อเข้าไปเที่ยวยังเกาะกง โดยทำได้ที่จุดตรวจชายแดนบ้านหาดเล็ก
ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก เป็นแหล่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาโดยชาวกัมพูชานิยมข้ามแดนมาซื้ออาหาร เครื่องดื่ม และผลไม้ เพื่อนำไปขายในประเทศของตน ส่วนชาวไทยนิยมไปจับจ่ายสินค้าประเภทน้ำหอม แว่นตา และเครื่องใช้ไฟฟ้า
บริเวณ ด่านชายแดนบ้านหาดเล็ก
ผ่านแดนเข้าสู่จังหวัดเกาะกง กัมพูชา
ในอดีตเมื่อเอ่ยชื่อเกาะกง ทำให้ผมนึกถึงบ่อนคาสิโน...ถ้าใครไปเกาะกง ก็คงไม่พ้นไปเล่นการพนันที่นั่น สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ผมได้รับรู้ข้อมูลน้อยมาก...อ่อ! อีกอย่างที่ผมคิด คือถ้าไปเกาะกงคงต้องนั่งเรือออกไปกลางทะเลเพื่อเดินทางไปเกาะแห่งนี้ เหมือนไปเกาะช้าง...แต่จริงๆแล้ว ชื่อเกาะกง แต่ไม่ใช่เกาะ จะขับรถ เช่ารถก็สามารถไปเที่ยวได้เลย
จากด่านบ้านหาดเล็ก เราเดินทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เราก็ถึงตัวเมือง จังหวัดเกาะกงแล้วครับ ก่อนเข้าสู่เกาะกง เราต้องจ่ายค่าผ่านสะพานที่ทอดยาว ข้าวอ่าวเกาะกง เข้าไปยังตัวเมือง
จากด่านเมืองคลองใหญ่ ถึงจังหวัดเกาะกงเดินทางไม่ถึง ครึ่งชั่วโมง
ราคาผ่านด่านข้ามสะพาน เข้าสู่จังหวัดเกาะกง กัมพูชา
เจดีย์ขุนช้างขุนแผน
เมื่อเรานั่งอยู่ในรถขณะขึ้นสู่สะพานเพื่อข้ามไปยังจังหวัดเกาะกง ทางด้านขวามือเราจะมองเห็นเจดีย์เก่าๆ ที่ถูกสร้างอยู่บนโขดหิน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเกาะกง และมีสะพานเชื่อมจากฝั่งเพื่อชาวบ้านผู้ศรัทธามากราบไหว้ ชาวบ้านเรียกเจดีย์แห่งนี่ว่า...เจดีย์ขุนช้างขุนแผน
โดยเจดีย์ขุนช้างขุนแผนแห่งนี้เป็นเจดีย์เก่าแก่ จากคำบอกเล่าคนในพื้นที่น่าจะมีอายุไม่น้อยกว่า 900 ปี ในอดีตด้านในเจดีย์มีเพชร พลอย พระเก่าแก่บรรจุอยู่...เจดีย์แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับขุนช้างขุนแผนในเรื่องความรัก ระหว่างหญิงสาวชื่อทับทิมซึ่งเป็นที่รักของขุนแผน กับชายร่างใหญ่ หัวล้านไม่หล่อ แต่ครอบครัวร่ำรวย ที่ชื่อขุนช้าง...เอาเป็นว่าตามตำนานเจดีย์แห่งนี้ขุนช้าง สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นความทรงจำ ในความรักของเขานั่นเอง...(นี้จากสุพรรณบุรี ขุนช้างขุนแผนมาไกลถึงเกาะกงเลยรึเนี้ย ฮ่าาาๆๆ) บ๊ะ! ที่กัมพูชา ก็มีตำนานรัก ขุนช้างขุนแผนด้วย...ต้องไปพิสูจน์กันครับ ที่เกาะกง
เจดีย์ขุนช้างขุนแผน ชาวเกาะกงนิยมมานมัสการกราบไหว้บูชา เพื่อขอพรให้สมหวัง ค้าขายร่ำรวย ทำมาค้าขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้ในช่วงเย็นๆ บรรยากาศจะดีมาก ลมเย็นสบาย จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นเป็นจำนวนมาก
เจดีย์ขุนช้างขุนแผนริมแม่น้ำเกาะกง มองจากสะพานเกาะกง
น้ำตกตาไต
เรานั่งรถข้ามสะพานผ่านจังหวัดเกาะกง ออกไปนอกเมือง เราจะได้เห็นทัศนียภาพของผืนป่าโกงกางที่สวยงาม และระยะทางจากเกาะกงมาอีก 20 กิโลเมตรเราก็จะได้เห็นน้ำตก ที่ยิ่งใหญ่ของเกาะกง ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ คือน้ำตกตา หรือน้ำตกทาไท ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านตาไต ไปทางทิศตะวันออกของเมืองเกาะกง
การเข้าสู่น้ำตกตาไต มีทั้งเส้นทางเดินเท้า และล่องเรือ ทริปนี้เรามาที่สะพานพุมดวง เพื่อขึ้นเรือออกไปชมน้ำตกตาไต ที่ยิ่งใหญ่
ท่าเทียบเรือบ้านตาไตบริเวณสะพานพุมดวง
เรือหางยาว 2 เครื่องยนต์ลำใหญ่พาเราล่องออกจากท่าเทียบเรือสะพานบ้านตาไตอย่างเนิบช้า สองฝั่งริมน้ำยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีทั้งไม้โกงกางสาระพัดชนิด ต้นจากก็มากมาย แม่น้ำใสสะอาดน่าเล่น สองฟากฝั่งยังไม่เห็นสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่เข้ามาให้รกหูรกตา...นอกจากบ้านไม้ริมน้ำ กับวิถีชาวเขมร ที่พายเรือค้าขาย และหาปลาตามลำน้ำ
วิถีชาวเขมร ที่ตาไต
เด็กน้อยกัปตันเรือ
ตาไต...เป็นน้ำตก 2 ชั้นขนาดใหญ่ ชั้นแรกมีความสูงประมาณ 5-6 เมตร ชั้นที่สองสูงประมาณ 12-15 เมตร น้ำตกแห่งนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ
น้ำตกตาไต ที่สวยงามยิ่งใหญ่ อยู่ห่างจากฝั่งไทยเพียง 30 กิโลเมตร
ล่องเรือออกไปชม น้ำตกตาไต
เข้าสู่ที่พัก...จังหวัดเกาะกง
หลังจากกลับจากล่องเรือชมน้ำตกตาไต เราเดินทางย้อนกลับเข้าสู่ที่พัก ที่จังหวัดเกาะกง ที่พักเราอยู่ริมแม่น้ำเกาะกง มองเห็นภูมิทัศน์ริมแม่น้ำได้อย่างสวยงาม
ไม่น่าเชื่อว่าในอดีตเกาะกงเคยเป็นเมืองหนึ่งของไทย มีชื่อว่า "ปัจจันตคีรีเขตร" ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงมีพระบรมราชโองการ ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด
ยามเย็นริมแม่น้ำเกาะกง
หมึกย่างปลากระเบนย่าง ริมแม่น้ำเกาะกงยามเย็น
สำหรับสาเหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า "เมืองปัจจันตคีรีเขตร" ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านภาคตะวันอีกฝั่งฟากของอ่าวไทยในแนวรุ่งละติจูดดียวกัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเพรสสิเดนท์แห่งฝรั่งเศส" เมื่อฝรั่งเศสยึดครองกัมพูชาได้ ในเหตุการณ์การล่าอาณานิคมจึงได้ยึดเมืองตราดไว้เป็นประกัน ต่อมาตามสนธิสัญญานี้ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้กับไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนประเทศกัมพูชา ส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือเมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐและเมืองศรีโสภณ แลกเปลี่ยนตามเงื่อนไข
ต่อมาปรากฏว่าเมืองปัจจันตคีรีเขตร (เกาะกง) ฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคีรีเขตร จึงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกัมพูชาไปโดยปริยาย
สะพานข้ามแม่น้ำเกาะกง
อ่าวเกาะกง เป็นอ่าวที่สวยงาม ในอันดับต้นๆของโลก
บริเวณสะพานเกาะกง
วิถีเด็กนักเรียนไปโรงเรียนยามเช้า
กลับสู่แผ่นดินไทยจังหวัดตราด...แวะเช็คอิน บริเวณแผ่นดินส่วนที่แคบที่สุดในเมืองไทย
ออกจากจังหวัดเกาะกง เดินทางสู่ด่านอำเภอคลองใหญ่ ผมขอแนะนำว่าอย่าลืมแวะช๊อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรี ที่ฝั่งเขมร ตรงข้ามกับบ่อนคาสิโน เกาะกงรีสอร์ท เพราะที่นี่มีสินค้าหลากหลายอย่างที่ราคาถูกกว่าเมืองไทย
เมื่อถึงฝั่งไทยก่อนเดินทางมุ่งสู่จังหวัดตราดเราไม่ลืมที่จะแวะเช็คอินในแผ่นดินส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย เมื่อก่อนผมเข้าใจว่าส่วนที่แคบที่สุดอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พึ่งรู้ว่าอยู่ที่ จังหวัดตราดนี่เอง
ที่นี่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์ก แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะถนนสุขุมวิทบริเวณพื้นบ้านที่บ้านโขดทราย ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นี้ ได้รับการบันทึกว่า เป็นพื้นที่ส่วนที่แคบที่สุดของไทย เมื่อวัดจากชายฝั่งทะเลเข้าไปจรดกับสันเขาบรรทัด ที่เป็นแนวกั้นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทย กับราชอาณาจักรกัมพูชา จะพบว่ามีระยะทางเป็นความกว้างเพียงแค่ 450 เมตร เท่านั้นเอง
แวะเช็คอินแลนด์มาร์ก แผ่นดินส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย
ฤดูฝน ...ฤดูกาลแห่งสีเขียวขจีของผืนป่า ตราดนอกจากจะมีทะเลเกาะมากมายสำหรับท่องเที่ยว แต่ก็มีภูเขาอันเป็นแนวชายแดนติดกับกัมพูชา เมื่อเดินทางมาเที่ยวจังหวัดตราดในฤดูฝนจึงได้เห็นทิวทัศน์แนวเขาเขียวขจี และเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวช้อปชิมไปกับสวนผลไม้มากมายในจังหวัด สายหมอกสีขาวจางๆ ที่ลอยเรี่ยกับไหล่เขาเป็นภาพที่สวยงามจนยากจะลืม สำหรับนักผจญภัยที่ชื่นชอบการเดินป่าเดินเขา ยังเลือกที่จะเข้าไปชมความงามของน้ำตกได้หลายแห่ง...สุดทางสายบูรพา..."ตราด"
ขอขอบคุณ
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.
สำนักงานพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง (อพท.1) ที่ได้เปิดเส้นทางและพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยง ตราด-เกาะกง
ติดตาม"ชายสามหยด"ได้ที่
https://www.facebook.com/soksagtravelling/
https://www.facebook.com/soksagtravelling/