วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เบิ่งนครพนม...สามที่สุด..สู่..สุขที่สุด

เบิ่่งนครพนม
.เชิญพี่ไปเที่ยวเล่น
นครพนมเบิ่งจั๊กเถื่อ
ลองเชื่อคำน้อง
สาวนครผิวเหลืองอ่อนดังทอง
ยามสาวลงลอยล่อง
ริมฝั่งโขงยามแลง
ไหมก็ขาว สาวลาวก็สวย
มวยผมดำน้ำบ่อก็ใส
สวยแท้คือสาวภูไท
สวยบาดใจชาย สาวญวนก็งาม
สวยบาดใจชาย สาวญวนก็งาม
.โขงเจ้าเอ๋ยไหลหลั่ง
ดั่งน้ำใจชาวอีสาน คงมั่นเลิศล้ำ
หากแม้นใคร
ไปพบเจ้างามขำ คำชะอีก็งาม
มุกดาหารยอดพธู
ท่าอุเทนหรือจะเป็นนาแก
สวยจริงแม่สาวเจ้าเรณู
หน้าหวานสาวดอนตาลก็น่าดู
สวยเด่นงามหรู สาวธาตุพนม
สวยเด่นงามหรู ผู้สาวธาตุพนม
ไปเล่นนครพนมกับน้องบ่
อยากให้อ้ายไปพ้อ
ล่ะสาวน้อยหน่อภูไท
อีสานไกล บ่แพ้
แต่ใจนางนั้นชื่นชุ่ม
ดอกเด้พี่ชายเอย คั่นแม้นพี่
อยากได้ล่ะเอาไว้ถ่ากล่อมสอง
กะจั่งแม่นกาเว้าวอน
อยากซ่อนเสื่อคันนำเด้
ผมเจ้าเพกลางเอ่ย

ไปเล่นนครพนมกับน้องบ่
อยากให้อ้ายไปพ้อ
ล่ะสาวน้อยหน่อภูไท
อีสานไกล บ่แพ้
แต่ใจนางนั้นชื่นชุ่ม
ดอกเด้พี่ชายเอย คั่นแม้นพี่
อยากได้ล่ะเอาไว้ถ่ากล่อมสอง
กะจั่งแม่นกาเว้าวอน
อยากซ่อนเสื่อคันนำเด้
ผมเจ้าเพกลางเอ่ย กลางเอ่ย
เจ้าคนผมเพกลางเอ่ย
ขับร้องโดย ต่าย อรทัย

นี้คือบทเพลง "เบิ่งนครพนม" ที่เขียนขึ้นโดยครูเพลง สุรินทร์ ภาคศิริ ที่ผมกลับมาเปิดฟัง เสียงหวานๆ ใสๆ ที่ขับร้องใหม่โดย ต่าย อรทัย อีกครั้ง เมื่อผมได้มาเยือนจังหวัดนครพนมแห่งนี้ ในเนื้อเพลงได้บรรยายถึงสาวงาม ชาวนครพนม ทั้งสาวผู้ไท สาวญวน สาวลาว ฯลฯ จะบอกได้ว่า นครพนม เป็นดินแดนแห่งสาวงาม อีกจังหวัดหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ 
 "มานครพนม ชมสามที่สุด เพื่อสุขที่สุด"
ผมมาเยือนนครพนมคราวนี้ ถือว่าโชคดีมาก เพราะเป็นปีท่องเที่ยวนครพนม กับกิจกรรม "สามที่สุด ปีท่องเที่ยวนครพนม"  ที่ทางจังหวัดนครพนม ได้จัดแคมเปญนี้ขึ้น
นครพนม นอกจากจะมีสาวงาม ถึง ๗ กลุ่มชาติพันธุ์ แล้ว ยังเป็นนครแห่ง ๗ พระธาตุ ซึ่งล้วนเป็นพระธาตุประจำวันเกิด ทั้ง ๗ วัน ถ้าใครได้ไปเยือน นครพนม อย่าพลาดชมและ Chek in ณ จุด สามที่สุด คือ
* ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด  พระธาตุพนม  พระธาตุประจำปีวอก และ คนที่เกิดวันอาทิตย์
* สวยที่สุด          สะพานมิตรภาพ ๓ (นครพนม-คำม่วน)
* งามที่สุด           ทิวทัศน์ริมฝั่งโขง

พระธาตุพนม ศักดิ์สิทธิ์ ที่สุด


วันเสาร์ที่ ๑๑ มิถุนายน ที่ผ่านมา นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เดินทางมาเป็นประธานเปิดกิจกรรม "สามที่สุด ปีท่องเที่ยวนครพนม" ภายใต้แนวคิด "สามที่สุด สู่ สุขที่สุด" กับสโลแกนเก๋ๆ "มานครพนม ชมสามที่สุด เพื่อสุขที่สุด" ณ จุด Chek in จุกแรก หน้าพระธาตุพนม พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
ในช่วงเย็นของวัน มีการจัดกิจกรรม "พิธีบูชาพระธาตุพนม เสริมบารมีคนปีวอก" เนื่องด้วยปีศักราชนี้เป็นปีนักษัตรปีวอก ซึ่งองค์พระธาตุพนมถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดชาวปีวอก โดยมี อาจารย์ คฑา ชินบัญชร และ คุณซัน ประชากร ปิยะสกุลแก้ว ดารานักแสดงลูกหลานชาวนครพนม นำคณะนักท่องเที่ยวและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมบุญ "ห่มผ้าพระธาตุพนม"

นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม



อาจารย์คฑา ชินบัญชร ท่านผู้ว่าสมชาย วิทย์ดำรงค์ และ คุณซัน ประชากร ปิยะสกุลแก้ว นักแสดง



อาจารย์ คฑา ชินบัญชร และ คุณซัน ประชากร ปิยะสกุลแก้ว นำนักท่องเที่ยวและแขกผู้มีเกียรติ "ห่มผ้าพระธาตุพนม"





พิธี "ห่มผ้าพระธาตุพนม"


 พระธาตุพนม ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยเป็นพระธาตุที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระธาตุที่เก่าแก่มากที่สุดในภาคอีสานอีสาน ซึ่งได้ถูกจารึกไว้ในภาพจิตรฝาหนังภายในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารอีกด้วย 
ประวัติการก่อสร้างพระธาตุพนมนั้น ได้ถูกกล่าวไว้ว่า พระธาตุพนมเป็นที่ประดิษฐาน พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ที่พระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้ โดยองค์พระธาตุถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ประมาณปี พ.ศ. ๘  มีแผ่นอิฐที่จำหลักลวดลายเป็นภาพกษัตริย์โบราณ ฝีมือช่างพื้นบ้าน ศิลปะสมัยทวารวดี หรือพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕ นับว่าเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่ของภาคอีสาน

 พิธีบายศรีสู่ขวัญ
หลังจากพิธี "ห่มผ้าองค์พระธาตุ" นายประมวล มุ่งมาตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี บายศรีสู่ขวัญ โดยมี อาจารย์บุญมี เครือพันธ์ พราหมณ์นำพิธีบายศรีสู่ขวัญ พร้อมด้วยนักท่องเที่ยว สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว




อาจารย์ บุญมี เครือพันธ์ พราหมณ์นำพิธีบายศรีสู่ขวัญ


นายประมวล มุ่งมาตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม

พิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คณะนักท่องเที่ยว สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และ สมาชิกบัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพฯ ร่วมขบวนแห่เครื่องสักการะ จากด้านหน้าประตูโขง ทางเข้าสู่องค์พระธาตุพนม ด้านทิศตะวันออก
 ในขบวนพิธีสักการะบูชาพระธาตุพนมมี หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระกลางทุ่ง นำขบวนผ้าไตรและเครื่องบวงสรวง นักรำและแขกผู้มีเกียรติ เดินมาจากหน้าประตูโขง






"พิธีสักการะ บูชาพระธาตุพนม เสริมบารมีคนปีวอก"

รำบูชาพระธาตุพนม
การรำบูชาพระธาตุพนม เป็นการรวมตัวของชนพื้นเมืองต่าง ๆ รวม ๗ เผ่า ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าประจำเผ่าของตน และร่ายรำในท่วงท่าอันงดงามเพื่อบูชาองค์พระธาตุพนม 
การรำบูชาถวายองค์พระธาตุพนม เป็นประเพณีอันดีงามของชาวจังหวัดนครพนม ซึ่งถือปฏิบัติมาเป็นเวลาช้านาน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเทศกาลงานสำคัญ เช่น งานเทศกาลนมัสการพระธาตุพนม หรือในวันออกพรรษาก่อนงานไหลเรือไฟ ก่อนการรำบูชาพระธาตุพนมนั้น ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน ได้ร่วมแห่เครื่องสักการบูชาประธานในพิธี ได้กล่าวคำบูชาไหว้พระธาตุพนม หลังจากนั้น ได้จัดชุดรำบูชาพระธาตุพนม ๗ ชุด คือ รำตำนานพระธาตุพนม รำศรีโคตรบูรณ์ รำผู้ไทยรำหางนกยูง รำไทยญ้อ รำขันหมากเบ็ง และรำเซิ้งอีสาน
ปัจจุบันการรำบูชา พระธาตุพนม จัดขึ้นเดือนละ ๒ ครั้ง เพื่อ "สักการะ บูชาพระธาตุพนม เสริมบารมีคนปีวอก" ซึ่งตรงกับปีนี้นั่นเอง





การรำบูชาพระธาตุพนม

ฟ้าสาง...ริมฝั่งโขง 
แสงแรก โผล่พ้นเทือกเขา ที่ตั้งตะหง่านอยู่อีกฟากของลำแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เช้านี้ผมรู้สึกเบิกบานอิ่มบุญ สุขใจ เมื่อมีโอกาส ได้เห็นการใส่บาตรข้าวเหนียว ยามเช้าริมฝั่งโขง ณ นครพนม แม้ผมจะไม่ได้ใส่เพราะมัวแต่ถ่ายรูปก็ตาม การได้เห็นพระเดินบิณฑบาตรเป็นแถวยาว นั้นหาดูได้ยากแล้วในสังคมเมืองปัจจุบัน มันเป็นภาพที่งดงามจริงๆ ณ ที่นครพนมแห่งนี้
วิถีประชายามเช้า ของที่นี่ก็ช่างงดงาม คืองดงามทั้งทิวทัศน์และวิีถีชีวิตผู้คน  บนเส้นทางขนานไปกับลำน้ำโขง มีเส้นทางจักรยาน สายสีเขียวทอดยาวสวยงาม ชาวบ้านหลังจากพากันออกมาตักบาตร ริมแม่น้ำโขง ก็จะปั่นจักรยาน เพื่อออกกำลังกาย บ้างก็วิ่ง บ้างก็เดิน เป็นภาพที่ผมเห็นแล้วรู้สึกประทับใจ

แสงเช้าริมฝั่งแม่น้ำโขง





พระเดินบิณฑบาตรยามเช้า ริมฝั่งแม่น้ำโขง







วิถี ริมโขง ณ นครพนม

สักการะ...พระธาตุนคร พระธาตุประจำคนเกิดวันเสาร์
หลังจากตักบาตรริมฝั่งโขง ผมได้มีโอกาสเข้าไปสักการะ "พระธาตุนคร" ซึ่งเป็นพระธาตุองค์เดียวในเขตตัวเมืองนครพนม ถือเป็นพระธาตุประจำคนที่เกิดวันเสาร์ แต่ความจริงคนที่เกิดวันอื่นก็เข้าไปสักการะบูชา ได้เช่นกัน
 พระธาตุนคร สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๖๓ โดย พระครูพนมนครคณาจารย์ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุและเจ้าคณะจังหวัดนครพนม ได้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างสลักหักพังภายในวัดจนพบเจดีย์ที่มีพระธาตุของพระอรหันต์อยู่ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ จึงได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้นเพื่อบรรจุ เริ่มสร้างในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๓ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๔๖๕

รูปแบบศิลปะ

พระธาตุนครสร้างขึ้นโดยถอดแบบมาจากพระธาตุพนม แบ่งองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนล่างซึ่งเป็นเรือนธาตุของปราสาทมีลวดลายปูนปั้นประดับบนเสาติดผนังที่มุมทั้งสี่ ซุ้มประตูเป็นซุ้มคดโค้งมีใบระกาแหลมขนาดใหญ่ ส่วนบนเหนือขึ้นไปคือเรือนธาตุจำลองหนึ่งชั้น ต่อด้วยฐานบัวลูกแก้วอกไก่ และส่วนบนเป็นยอดทรงบัวเหลี่ยมในศิลปะล้านช้างทรงป้อมคล้ายพระธาตุพนมก่อนต่อเติมยอดองค์พระธาตุทาสีขาวประดับด้วยลายดอกไม้ร่วงและลวดลายสีทอง



 



พระธาตุนคร พระธาตุประจำคนที่เกิดวันเสาร์ ณ วัดมหาธาตุ นครพนม

สักการะ...พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำคนเกิดวันศุกร์
ในทริปนี้ผมโชคดี นอกจากจะได้สักการะ พระธาตุพนม ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผมแล้ว (ปีวอก) ผมยังมีโอกาสได้ไปสักการะ "พระธาตุท่าอุเทน" ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผมอีกด้วย (วันศุกร์) โดยมีผู้นำสักการะคือ อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
พระธาตุท่าอุเทน ตั้งอยู่ภายในวัดท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนมสร้างเป็น ๓ ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ ๒ สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ ๓ คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ ๑๕ เมตร พระอาจารย์ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๔ พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง จะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น ๑๓ ค่ำ ถึงแรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ ของทุกปี 
พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ และเชื่อกันว่าผู้ที่เกิดวันนี้เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รักอิสระ รักสวยรักงาม คือพระธาตุหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ






สักการะ พระธาตุท่าอุเทน

สักการะ...พระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำคนเกิดวันอังคาร
นครพนมเป็นเมืองแห่งพุทธศาสนา มีวัดวาอารามที่งดงามและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีความเป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะในการที่เป็นเมืองที่มีชาวชาติพันธุ์ต่างๆ อยู่ในพื้นที่อย่างหลากหลาย มีฝีมือช่างไทย ฝีมือช่างลาว ฝีมือช่างชาวผู้ไท หรือแม้กระทั้งฝีมือช่างชาวเวียดนาม เข้ามาผสมผสานปะปนอยู่กับศิลปสถาปัตยกรรมตามวัดวาอารามต่าง อย่าง "พระธาตุศรีคุณ" ที่ผมได้ไปสัมผัสมา  
เมื่ออดีตก่อนที่จะเกิดวีรบุรุษนาแก เกิดการรบพุ่งกันตลอดมาตั้งแต่อาณาจักรล้านช้างเรื่อยไปจนถึง อาณาจักรขอมเนื่องจากเป็นยุทธภูมิทางการต่อสู้ และตัว พระธาตุศรีคุณ มีกษัตริย์ นักรบเป็นผู้ก่อสร้าง ตรงกับเทพประจำวันอังคาร ซึ่งเป็นนักต่อสู้ คนที่เกิดวันนี้เช่นกันจะเป็นนักสู้ มีน้ำอดน้ำทนเป็นเยี่ยม และเชื่อว่าใครได้ไปสักการะจะได้อานิสงส์ทวีคูณ และเสริมพลังนักสู้ในจิตใจให้เข้มแข็งขึ้น
พระธาตุศรีคุณ ประดิษฐานอยู่ที่วัดธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก ระยะทางห่างจากจังหวัดนครพนม ๗๘ กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐ์ฐานพระธาตุศรีคุณ ซึ่งเป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอนาแก ถูกค้นพบเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๓๔๐ และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อปีพ.ศ.๒๔๘๖-๒๔๙๐ มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม ต่างกันที่ชั้น ๑ มี ๒ ตอน เป็นรูปสี่เหลี่ยม ประดับลวดลายปูนปั้น และชั้นที่ ๒ สั้นกว่าพระธาตุพนม ภายในบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุของพระโมคลานะ พระสารีบุตร พระอัครสาวกซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า และ พระสังกัจจายนะ







พระธาตุศรีคุณ และการต้อนรับ ของชาวอำเภอนาแก

 สักการะ...พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันจันทร์ 
 นครพนม มีวัดอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุประจำอำเภออยู่แทบทุกอำเภอ แผนการท่องเที่ยวของจังหวัดจึงเป็นการท่องเที่ยวในเชิงวิถีธรรม เมื่อได้ไปเยือนนครพนม จำเป็นต้องสอดแทรกโปรแกรม ไปไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ซึ่งมีอยู่ครบทั้ง ๗ วัน อันได้แก่ พระธาตุประจำวันจันทร์ ได้แก่พระธาตุเรณู  อำเภอเรณูนคร พระธาตุประจำวันอังคาร ได้แก่ พระธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก พระธาตุประจำวันพุธ ได้แก่ พระธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก พระธาตุประจำวันพฤหัสบดี ได้แก่ พระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า พระธาตุประจำวันศุกร์ ได้แก่ พระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเสาร์ ได้แก่พระธาตุนคร อำเภอเมืองนครพนม และพระธาตุประจำวันอาทิตย์ ได้แก่ พระธาตุพนม พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองนครพนม และคู่เมืองภูมิภาคอีสาน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปนครพนม ก็สามารถเลือกไหว้พระธาตุเป็นสิริมงคลแก่ตนเองได้สำหรับทุกวันเกิด
วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปเยือนอำเภอเรณูนคร อีกครั้ง หลังจากที่เคยไปในงานผู้ไทโลก ที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในอำเภอแห่งนี้ ที่อำเภอเรณูนคร มีพระธาตุสีชมภู สวยงามโดดเด่นตั้งตะหง่านอยู่ที่นั่น คือ "พระธาตุเรณู"
 พระธาตุเรณู เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันจันทร์ เป็นพระธาตุคู่เมืองของชาวเรณูนคร โดยจำลองรูปทรงมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๐ สูง ๓๕ เมตร กว้างด้านละ ๘.๓๗ เมตร ภายในเจดีย์บรรจุคัมภีร์พระธรรม พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เพชรนิลจินดา หน่องา และของมีค่าที่เจ้าเมืองเรณูนคร กับประชาชนนำมาบริจาค และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ ที่นี่จะงานเทศกาลนมัสการพระธาตุเรณูนคร เป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น ๑๑ - ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ รวม ๕ วัน ๕ คืน 




พระธาตุเรณู

นครพนม เป็นจังหวัดริมแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน มีทิวทัศน์งดงาม เป็นเมืองเก่าและเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมของหลายชนเผ่า ช่วงเทศกาลออกพรรษาจะมีงานประเพณีไหลเรือไฟ ที่สืบทอดมาแต่โบราณ เพื่อสักการะบูชาพระพุทธเจ้า และ ยังมีการจัดแข่งเรือยาวเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างไทย-ลาว
วันนี้ นครพนม มีจุดชมวิวซึ่งเป็นแลนด์มาร์ก  ริมฝั่งแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม เป็นจุดชมวิวในมุมสูง จะมองเห็นเทือกเขาที่สลับซับซ้อนสวยงามจากคำม่วน สปป.ลาวชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปถ่ายรูปและเช็คอิน กับป้ายสีส้ม งามๆ บนนี้ได้


 

 

จุดเช็คอิน งามที่สุด...ทิวทัศน์ริมฝั่งโขง

นักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปนครพนม ถ้าเจอ "จุดถ่ายภาพสามที่สุด" สามารถร่วมกิจกรรม "เช็คอินฟินสุดสุด" และกิจกรรม Like and Share  เพื่อรับของที่ระลึกและของรางวัล ได้แก่สินค้า โอทอปจังหวัดนครพนม เสื้อยืด สามที่สุด แฟลซไดร์ฟสามที่สุด Gift Voucher โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ของฝากในจังหวัดและแพ็คเกจทัวร์ "มานครพนม สามที่สุด" โดยมีระยะเวลาตั้งแต่  ๑๑ มิถุนายน - ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ นี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานจังหวัดนครพนม โทร. ๐๔๒ ๕๑๑ ๒๘๗

มองเห็นเทือกเขา แขวงคำม่วน สวยงาม

สะพานมิตรภาพ ๓ (นครพนม-คำม่วน)
เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย (นครพนม) กับประเทศลาว (คำม่วน) พื้นที่ฝั่งไทย ที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้า และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีความยาวรวม ๗๘๐ เมตร มีช่องลอดกว้าง ๖๐ เมตร สูง ๑๐ เมตร ๒ ช่วง ความกว้างสะพาน ๑๓ เมตร และมีการช่องจราจร ๒ ช่อง และไม่มีทางรถไฟ
สะพานมิตรภาพ ๓ นี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรจะไปแวะเวียนเยี่ยมชมสักครั้งเพราะถือว่าเป็นสะพานที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของภาคอีสาน





จุดเช็คอิน สวยที่สุด...สะพานมิตรภาพ ๓ นครพนม-คำม่วน

บ้านนาจอก(บ้านลุงโฮ)
บ้านนาจอกหรือบ้านลุงโฮหรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าบ้านท่านโฮจิมินห์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม ช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๖๗–๒๔๗๔ 
ลุงโฮได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครพนมโดยมาอาศัยอยู่เป็นเพื่อนที่มาจากเวียดนามเช่นเดียวกันที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์ แต่ในครานั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างสงครามที่ต้องหนีออกมาจากเวียดนาม ต่างคนจึงได้ต่างหลบหนีแยกย้ายกันไปหลบภัยต่างถิ่นกัน  ลุงโฮเองก็ได้เดินทางโดยเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยมารวมทั้งได้เปลี่ยนชื่อเรียกไปตามนั้นด้วยเพื่อเป็นการซ่อนตัวและไม่ให้ผู้ใดจำตนเองได้  สำหรับเพื่อนสนิทของลุงโฮนั้นเองก็ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยและมีครอบครัวที่ประเทศไทย  ซึ่งปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทย  ในส่วนของบริเวณภายในบ้านนั้นเองจะมีต้นไม้นานาชนิดที่ลุงโฮได้ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย และชา ซึ่งมีบรรยากาศอันร่มรื่น รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ของลุงโฮ อาทิเช่นโต๊ะทำงาน และเครื่องตำข้าวที่ลุงโฮใช้ในการตำข้าว  หมู่บ้านนาจอกแห่งนี้ได้รับการจัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม โดยได้มีการจัดนิทรรศการแสดงประวัติการทำงานและเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆของท่านโฮจิมินห์ นอกจากนี้แล้ว บริเวณริมถนนหมู่บ้านยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารเวียดนามเปิดให้บริการแก่ผู้มาเยี่ยมชมอีกด้วย


อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์   แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ภายหลังทางสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดนครพนมในฐานะเมืองคู่แฝด ที่ลงนามความร่วมมือในเรื่องของเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ที่สำคัญยังเป็นเมืองที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์เคยมาพำนัก เพื่อหาลู่ทางกอบกู้เอกราชปลดปล่อยประเทศเวียดนามยุคสงครามอินโดจีน
กระทั่ง เมื่อปี ๒๕๕๗  สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สนับสนุนงบประมาณ ๔๕ ล้าน ร่วมกับชาวไทยเชื้อสายเวียดนามผลักดันให้มีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ หรือ ลุงโฮ อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์  ขึ้นที่บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม  บนเนื้อที่ประมาณ ๕ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์
ภายในได้จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของเส้นทางการต่อสู้กอบกู้เอกราชของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ การก่อสร้างหุ่นขี้ผึ้งจำลอง สภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของ อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์  เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาเส้นทางความเป็นมาของประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับเวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างอาคาร ไว้จัดแสดง จำหน่ายสินค้า โอทอป ที่ระลึกที่สำคัญของ จังหวัดนครพนม  ซึ่งการก่อสร้างล่าสุดใกล้เสร็จสมบูรณ์ และพร้อมที่จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้เข้าชม  ซึ่งจะมีการเปิดเป็นทางการในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ พร้อมจัดงานเฉลิมฉลอง  ครบรอบ ๑๒๖ ปี วันคล้ายวันเกิดของ ลุงโฮ หรือ อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ รวมถึงครบรอบ ๑๒ ปี ในการก่อสร้างหมู่บ้านมิตรภาพไทยเวียดนามขึ้น















อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ 

สาวญวน บ้านนาจอก 

"พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง"

 “ นครพนม” ชื่อนครพนมนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองลูกหลวงมาก่อนและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จึงได้ใช้คำว่า “ นคร” ส่วนคำว่า “พนม” ก็มาจากพระธาตุพนมปูชนียสถานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน บ้างก็ว่ามรุกขนครเดิมที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงตั้งอยู่ในบริเวณที่มีภูเขาสลับซับซ้อนจึงนำคำว่า “พนม” ซึ่งแปลว่าภูเขามาใช้ ส่วนคำว่า “นคร” ก็เป็นการดำรงชื่อเมืองไว้คือเมืองมรุกขนคร นครพนมจึงหมายถึง “ เมืองแห่งภูเขา” นั่นเอง

ข้อมูล...จากอินเตอร์เน็ต วิกิพีเดีย


รำบูชาพระธาตุ เบิ่งนครพนม - ต่าย อรทัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แกลอรี่รูปภาพTiewZogZag