เมื่อความหนาวเย็นเริ่มห่างหาย...ใจของผม และสมาชิกในครอบครัวก็เริ่มที่จะโหยหาท้องทะเลสีคราม ตัดกับท้องฟ้าสีสดใส... ร้อนนี้ครอบครัวของผม ได้จองที่พักริมทะเลไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเราคอยนับวัน นับคืน อยากจะให้ถึงวันหยุดพักร้อนในช่วงกลางเดือนเมษานี้...เพื่อที่จะได้ไปเยือนที่นั่นเร็วๆ
เช้าวันอาทิตย์ 10 โมงกว่าๆ...หลังจากที่เราทำการเลือกตั้ง ส.ว. ตามสิทธิหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ผมเบนหัวรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง รีบมุ่งหน้าสู่ ...ช่องแสมสาร ทันที จริงๆแล้วยังไม่ถึงกำหนดเวลาพักร้อนหยุดยาว จริงๆหรอกนะครับ แต่ทริปนี้ แค่อยากจะไปซ้อมดำน้ำ ในทะเลใกล้ๆ บ้านแบบไปเช้าเย็นกลับเท่านั้นเอง...ช่วงนี้อากาศร้อน ร่างกายต้องการน้ำทะเลอย่างแรง
MV ทริป "เกาะแสมสาร"
วันนี้ครอบครัวของผมอยู่กันพร้อมหน้า ครบทั้ง4 คน...ลูกสาวลงมาจาก กรุงเทพฯ เพื่อมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ครั้งแรก เพราะอายุพึ่งถึงเกณฑ์พึ่ง...ส่วนลูกชายว่างเว้นจากการคร่ำเคร่ง เรียนพิเศษ จากตัวเมืองชลบุรีพอดี...ภรรยาผมจึงจัดทริป ท่องเที่ยวทะเล ทริปเล็กๆ ใกล้ๆ ...วันก่อนผมกับภรรยาไปเที่ยวกันสองคนที่ หาดน้ำใส หาดเปิดใหม่ในเขตทหาร ช่องแสมสาร(คลิกชมตามลิ้งค์ได้ครับ) "หาดน้ำใส...สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่ช่องแสมสาร" แต่วันนี้อยู่กันพร้อมหน้าก็เลยตั้งใจข้ามไปเที่ยว “เกาะแสมสาร” ไปดำน้ำดูปะการังกันซะเลย...ก่อนหน้านั้น เราได้ศึกษาไว้แล้วว่า บน เกาะแสมสาร ไม่มีร้านอาหาร นอกจากร้านขายน้ำ กาแฟซองทรีอินวัน และขนมเล็กๆน้อยๆ...ภรรยาผมเลยเตรียมชงกาแฟจากบ้านใส่กระติกกันความร้อน และ ซื้อข้าว 4 กล่อง เพื่อไปกินบนเกาะแสมสาร
เกาะแสมสาร คือเกาะที่มองเห็นใหญ่ที่สุดตรงกลาง
เรือเที่ยว 12.00 คือเรือลำที่เรานั่งจากสะพานท่าเทียบเรือ บริเวณ เขาหมาจอ ไปยัง เกาะแสมสาร เจ้าหน้าที่บนเรือล้วนเป็นทหาร บริการนักท่องเที่ยวอย่างดีเยี่ยม...เรือใช้เวลาเดินทางจากสะพานท่าเทียบเรือ เขาหมาจอ ไม่ถึง 20 นาทีก็ถึง เกาะแสมสาร ซะแล้ว...พอไปถึงผมกำลังตื่นตาตื่นใจ กับน้ำทะเลที่ใส ทรายที่ขาวนวลละเอียดยิบ...ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารเรือ แจ้งให้เข้านั่งฟังคำบรรยายที่มาที่ไปของเกาะ สิ่งที่ต้องห้าม สิ่งที่ให้ทำ และรวมถึงกิจกรรมต่าง ที่มีให้นักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวเกาะแสมสาร
นักท่องเที่ยวไปถึงเกาะต้องไปนั่งฟังบรรยายก่อนครับ
ผมทราบจากคำบรรยายของวิทยากร ซึ่งเป็นทหารเรือว่า เกาะแสมสาร เป็นเกาะที่กันพื้นที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไว้ให้แก่เยาวชนได้ศึกษาสร้างความรู้ ตามพระราชกระแสแนะนำแนวทาง ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
บนเกาะแสมสาร ยังมีการสำรวจพืชพรรณ และ ยังเป็นที่รวบรวมพืชพรรณไม้หายากของประเทศไทยไว้ บนเกาะแห่งนี้อีกด้วย...นอกจากนี้เจ้าหน้าทหารที่ทำการบรรยา ยังแนะนำว่าบริเวณไหนเข้าได้ บริเวณไหนเข้าไม่ได้ รวมถึงแนะนำกิจกรรมต่างๆบนเกาะ จุดดำน้ำ ชายหาด ปั่นจักรยานฯลฯ
จุดดำน้ำดูปะการังบนเกาะแสมสาร มี 2 จุด คือหน้าหาดเทียน ต้องนั่งเรือห่างออกไป 2 กิโลเมตร อีกจุดอยู่ที่หน้า หาดลูกลม ต้องนั่งรถจากหาดเทียน ไปลงเรือที่ หาดลูกลม หรือใครไม่อยากลงน้ำ เจ้าหน้าที่ก็มี เรือท้องกระจกไว้คอยบริการไปดูปะการัง ด้วยเช่นกัน
พวกเราเลือกไปดำน้ำ ดูปะการัง หน้าหาดเทียน เพราะผมแอบถามเจ้าหน้าที่แล้วว่า จุดนี้จะสวยและสมบูรณ์กว่า ที่หน้าหาดลูกลม เจ้าหน้าที่แนะนำ ให้พวกเราไปเบิกหน้ากากและท่อหายใจเพื่อใช้ดำน้ำ พร้อมทั้งชูชีพ...และไปฝึกซ้อมดำน้ำก่อนลงเรือที่ชายทะเลหน้าหาด โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารอีกชุดคอยแนะนำ
ก่อนไปดำน้ำดูปะการัง ที่หาดเทียน เกาะแสมสาร
เบิกอุปกรณ์ดำน้ำดูปะการัง ได้ฟรี
มีตู้ล๊อคเก้อร์ให้เก็บของ ก่อนไปดำน้ำ
ทหารสอนให้นักท่องเที่ยวคุ้นเคยทั้งระบบหายใจทางปาก และใช้อุปกรณ์ดำน้ำให้คุ้นเคย
ก่อนลงเรือ และรอเรือมารับ
ทหารสอนนักท่องเที่ยว ใช้อุปกรณ์ดำน้ำก่อนไปดูปะการัง
ในรอบที่พวกเรา ไปดำน้ำดูปะการัง นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ มีถึง 40 กว่าคน พวกเราเลยได้ขึ้นเรือลาดตะเวนของทหารลำใหญ่แทนเรือยางออกไปดำน้ำดูปะการัง ซึ่งจุดดำน้ำ อยู่ห่างจากฝั่ง 2 กิโลเมตร
มีบ่ออนุบาลเต่าทะเล บริเวณท่าเทียบเรือ
พร้อมแล้วลงเรือ
เรือลาดตะเวนของทหารเรือ นำนักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำดูปะการัง
การดำน้ำดูปะการัง...เจ้าหน้าที่ของเกาะ จะทำทุ่นไว้และผูกเชือกเป็นวงกลมตามแนวของปะการัง พวกเราเกาะเชือกแล้วก็สาวเชือกไปข้างหน้าว่ายตามๆกันไป...จนถึงจุดที่มีปลาการ์ตูน สวยงามเพลิดเพลินมาก ใต้ท้องทะเลมีปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง และดอกไม้ทะเลที่ไหวตามแรงคลื่น ปลาการ์ตูนน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา ถึงแม้ปะการังจะไม่สวยและสมบูรณ์เท่า ที่ทะเลฝั่งอันดามัน แต่ เกาะแสมสาร ก็เป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าเบา ทั่วไปได้เช่นกัน
การดำน้ำดูปะการังที่เกาะแสมสาร เกาะเชือกแล้วว่ายเป็นวงกลมตามแนวปะการัง
พวกเราใช้เวลาดำน้ำดูปะการังประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเรือจะนำเราเข้าสู่หาดเทียนอีกครั้ง นำแว่นดำน้ำ ชูชีพไปล้างน้ำจืด ในถังที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ ใครที่คิดว่าไม่เล่นน้ำทะเลอีกแล้วก็อาบน้ำจืดในห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ได้เลย ส่วนพวกผมเลือกที่จะใช้กิจกรรมที่มีอยู่บนเกาะนี้ให้คุ้ม...แล้วเราก็ไปชม ไปเที่ยว หาดลูกลม กันต่อ ภรรยาผมเลือกนั่งรถ ที่เจ้าหน้าที่ทหารมีบริการส่งถึงหน้าหาดลูกลม ลูกสาว ลูกชาย เลือกปั่นจักรยานไปกันเอง ส่วนผมเลือกที่จะเดิน เพราะระยะทางจากหาดเทียนไปหาดลูกลม เพียง กิโเมตรนิดๆ เท่านั้นเอง สบายมากสำหรับคนชอบเดินแบบผม
ภรรยาผมเลือกนั่งรถของเจ้าหน้าที่ ที่มีบริการไปส่งยังหาดลูกลม
ลูกสาว ลูกชาย เลือกปั่นจักรยาน ไปหาดลูกลม ที่มีไว้บริการฟรีตลอดทั้งวัน
จุดนี้ที่เห็นว่าห้ามผ่าน แต่ทหารบอกไปได้แต่ต้องปั่นอย่างระมัดระวัง เพราะทางลาดชัน
ผมเดินถ่ายภาพจากหาดเทียน ไปหาดลูกลม ระยะทางประมาณ กิโลเมตรนิดๆ
พอผมเดินไปถึง หาดลูกลม หลังภรรยาและลูกๆ ที่เดินทางมาถึงก่อนแล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นกับความงามของชายหาด น้ำทะใสน่าเล่น ทรายขาวนวลสะอาดตา บนชายหาด มีสนามฟุตบอล ประตูเล็กบนพื้นทรายไว้ให้เล่น และยังมีสนามวอลเล่ย์ บอลชายหาดอีกด้วย ใครใคร่เล่นอะไรเลือกกันตามสบาย...ส่วนเรือคายัคถ้านักท่องเที่ยวคนไหนอยากพาย ก็เหนื่อยละ 20 บาท ไม่แพง เล่นเหนื่อยหรือเบื่อค่อยนำมาคืน
ที่หาดลูกลมมีสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดให้เล่น
สนามฟุตบอลประตูเล็ก ชายหาด
เรือคายัคเหนื่อยละ 20 บาท ให้พายเล่นจนเหนื่อย
ด้วยวันนั้นแดดร้อน ภรรยาและลูกๆ จึงเช่าเตียงผ้าใบชายหาดที่มีไว้คอยบริการ เตียงละ 20 บาท ส่วนผมเดินสำรวจ หน้าหาด และยังปีนเขาขึ้นไปถ่ายรูปมุมสูงมาฝากอีกด้วยครับ
แหลมสำราญ ณ หาดลูกลม
ภาพจากมุมสูงหาดลูกลม
มีเตียงผ้าใบบริการ 20 บาท
มีร้านค้าไว้คอยบริการ แต่ไม่มีอาหารนอกจาก มาม่า ไวไว (ต้องนำไปเอง)
บรรยากาศ ที่ หาดลูกลม
บ่ายสี่โมง เรานั่งรถของเจ้าหน้าที่ ที่ไปรับมายังหาดเทียนอีกครั้ง เพื่อรอขึ้นเรือกลับในเที่ยวสุดท้าย 5 โมงเย็น ช่วงเวลาที่เหลือ ผมเดินสำรวจหาดเทียนอีกครั้ง
ท่าเทียบเรือ หาดเทียน
ศาลาพักผ่อนริมน้ำ หาดเทียน
ที่หาดเทียนจะมีศาลเจ้า อาม่าแสมสาร ตั้งอยู่
มีร้านค้าสวัสดิการ ไม่มีอาหาร นอกจากขนมขบเคี้ยวและมาม่า กาแฟ ทรีอินวัน ไว้คอยบริการ
ชิงช้านั่งผ่อนคลายริมทะเล
รอเรือมารับ
มีจักรยานเสือภูเขาไว้คอยบริการ
รถรับส่งนักท่องเที่ยวกลับจาก หาดลูกลม
วันนั้นพวกเราได้นั่งเรือกลับฝั่งแสมสาร ในเที่ยวบ่ายสี่โมงครึ่ง เพราะนักท่องเที่ยวหนาตาหน่อยเลยมีรอบพิเศษ เรือลำเดิมที่พาเราไปดำน้ำดูปะการังมารับ ใช้เวลาเดินทางถึงฝั่งไม่ถึง 15 นาที
เดินทางกลับจาก เกาะแสมสาร ถึงฝั่งท่าเรือเขาหมาจอ
เย้...แล้วพวกเราจะไปเยือนกันอีก..."เกาะแสมสาร"
วันนั้นพวกเรากลับขึ้นฝั่ง ผมขับรถตะเวนหาอาหารทะเล อร่อยๆ แถว บ้านอำเภอ กิน...ชมพระอาทิตย์ตก ก่อนกลับเข้าบ้าน อาบน้ำนอนอย่างสบายใจ มีความสุข อิ่มเอิบ กับท้องทะเลอ่าวไทย...ไม่ไกลจากบ้านไปเช้าเย็นกลับ ขนาดลงเรือไปตอนเที่ยง ยังได้เที่ยวอย่างสุดคุ้ม
"เกาะแสมสาร...เป็นความงามที่ซ่อนเร้นในทะเล ตะวันออก"... จริงๆครับ
"เกือบลืมบอกไปครับ...ถ้าใครจะไปเที่ยว เรือเที่ยวแรก ออก 9 โมงเช้า และออกทุกชั่วโมงจนถึงบ่ายสองโมงนะครับ...ส่วนเรือกลับจากเกาะแสมสาร เที่่ยวสุดท้ายคือ 5 โมงเย็น... ซื้อตั๋ว 250 บาท ได้สนุกกับกิจกรรมหลายอย่างสุดคุ้มครับ สำหรับการท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการัง ที่ เกาะแสมสาร..."
อ่อ!!!...พวกฉิ่งฉับทัวร์ ประเภทนั่งดื่ม ร้องรำทำเพลง ไม่ต้องข้ามเกาะไปเที่ยวกันนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่ทหาร เขาห้ามดื่มของมึนเมาบนเกาะครับ...ฮาาา ...อดเบย
ติดตามเพจในเฟสบุ๊คได้ที่
https://www.facebook.com/soksagtravelling/
(เที่ยวซอกแซก ZogZagTravelling)
(เที่ยวซอกแซก ZogZagTravelling)
https://www.facebook.com/anontaseeha/
(ชายสามหยดพาเที่ยว)
(ชายสามหยดพาเที่ยว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น