วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เที่ยวซอกแซก...วังเวียง สปป.ลาว (ตอนที่ ๔)

ไหลเรื่อยกับเรือคายัค...บนลำน้ำซอง

ยามแลงค่ำลง...น้ำซอง
โอ้...บริพันน้ำซองไหลผ่าน...ใสดี"
น้ำซอง...ไม่เกี่ยวกันกับ...น้ำซัน ในเพลง "กุหลาบปากซัน"...บทเพลงสุดคลาสสิคของชาวลาว ที่มีนักร้องไทยนำมาร้องหลายต่อหลายคนแต่อย่างใด ด้วยการออกเสียง "ซ.โซ่" ที่เหมือนกัน ทำให้ผมอดนึกถึงเพลงฮิตเพลงนี้ไม่ได้...บรรยากาศกลางลำน้ำซองมันพาไปจริงๆ
น้ำซองไหลเอื่อย...เรือคายัคและห่วงยาง ไหลเรื่อยตามแนวโค้งของลำน้ำ เว้นระยะห่างตามความต้องการที่จะสัมผัส ละเลียดชมริมฝั่งซองของแต่ละคนในมุมมองที่ต่างกัน  เบื้องล่างผืนน้ำซองมองดูใสจนเห็นก้อนกรวดหลากสีสงบนิ่งสะท้อนแสงแดดที่ร้อนแรงที่อยู่เหนือขุนเขาและผืนน้ำ
พันธุ์ไม้เขียวครึ้ม ที่มีลำต้นแปลกตาใช้รากชอนไชยึดเหนี่ยวไปตามซอกของเขาหินปูน ที่ตั้งตะหง่านดุจกำแพงยักษ์ริมฝั่งน้ำด้านขวามือ เหมือนกับว่าพวกเรากำลังจะล่องลอยเข้าไปสู่แดนแห่งเทพนิยาย หรือป่าดึกดำบรรพ์ที่ไหนสักแห่ง
ผมบอกน้องไกด์ชาวลาวที่มาทำหน้าที่เป็นกัปต้นคุมหางเสือเรือคายัคลำของผม พายช้าๆ เพื่อจะได้เก็บภาพบรรยากาศริมสองฝั่งลำน้ำซอง อันสวยงามตระการตาที่อยู่เบื่องหน้า
สองแม่ลูก มือใหม่หัดพาย คุณนายแมว(ภรรยา) และสาวจีม (ลูกสาว) เริ่มจะตั้งลำได้หลังจากที่พากันพายออกซ้ายที ขวาที บางครั้งก็หมุนวนอยู่กับที่ แต่ก็ไม่ได้เป็นการซีเรียสอะไร พวกเธอกับสนุกสนาน กับกิจกรรมใหม่ๆ ในการได้ล่องลำน้ำซองท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายที่ร้อนแรง



แดดบ่ายตกกระทบผิวหนัง ที่ไร้ครีมกันแดดป้องกัน ทำให้ผิวภายนอกเริ่มแสบร้อนจนผมต้องวักน้ำ ขึ้นมาลูบเพิ่มความเย็นอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ติดที่มีกล้องที่ห้อยอยู่บนคอเพื่อจะเก็บภาพสองริมฝั่งลำน้ำซอง ผมคงกระโดดเกาะเรือคายัคลอยคอ ไปตลอดลำน้ำแน่...แต่ความงามของสายน้ำขุนเขา ที่อยู่เบื้องหน้าก็มีส่วนทำให้รู้สึกเย็นสบาย และผ่อนคลายได้เช่นกัน
"เดี๋ยวเราแวะพักร้านอาหาร ที่อยู่เลยสะพานไม้ด้านหน้าครึ่งชั่วโมงนะครับ" เสียงน้องไกด์ชาวลาว ที่พูดภาษาไทยได้ชัดเจน มากกว่าคนไทยบางคนตะโกนบอกเรา
เรือคายัคลอยลำลอดผ่านสะพานไม้ ที่ถูกสร้างระหว่างรีสอร์ตและร้านอาหารริมซอง มีนักท่องเที่ยวสหชาติ กำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำที่ใสเย็น จนทำให้คุณนายแมวและน้องจีม อดใจไม่ไหว กระโดดลงจากเรือคายัค ลงไปนอนแช่น้ำซองเพื่อดับร้อนอย่างสบายใจ








หลังจากที่ไสเรือคายัคขึ้นไปเกยตื้นอยู่ริมตลิ่งของลำน้ำ ผมก็เดินไต่บันไดไม้ที่สูงชันขึ้นไปยังร้านค้าที่ตั้งอยู่เบื้องบนเพื่อตามหา เบยลาว ที่แช่นิ่งเย็นเจี๊ยบในตู้เย็นของร้านค้า มานอนจิบ บนเปลผ้าที่กางไว้บนเพิงยกพื้น ...
ผมนึกถึงสโลแกนในภาพยนต์โฆษณาเบียร์ยี่ห้อหนึ่งของไทย หลังจากที่ผมเอนตัวลงนอนแล้วจิบเบยลาวบนเปลผ้าใบ มองดูขุนเขาหินปูนที่ตั้งตะหง่านอยู่ริมลำน้ำซองเบื้องหน้า...พร้อมกับยิ้มให้มุมกระป๋องเบียร์ก่อนกระดก  แล้วค่อยๆกลืนลงสู่ลำคอ เพื่อไปหล่อเลี้ยงให้ความสุขที่มีอยู่แล้วจากการได้ท่องเที่ยว สมบูรณ์ยิ่งขึ้น..."ชีวิตเรา...ใช้ซะ"




บนร้านอาหาร มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เกาหลี มาพักผ่อนก่อนหน้าพวกเรา กำลังสนุกสนานเฮฮา กับการเล่นสนุ๊กเกอร์ ที่ทางร้านมีไว้คอยบริการลูกค้าที่แวะเวียนขึ้นมา เพลงฝรั่ง ทำนองเร้กเก้ ถูกเปิดแทนเพลงประจำชาติคือหมอลำ...ทำเอานักท่องเที่ยวทั้งร้านดูคึกคัก รวมทั้งผม ที่อดใจไม่ไหวที่จะโยกตามจังหว่ะโจ๊ะของเพลงเร้กเก้มันๆ...จนลูกสาวทักว่า 
 "ตกลงพ่อกำลังเต้นเร้กเก้...หรือ กำลังเซิ้ง กันแน่"

https://www.facebook.com/video.php?v=478974092240792&l=623426627443169666
 (คลิกลิ้งค์ เพื่อชมคลิปเร้กเก้ลาว...ชายสามหยด ฮ่าาาๆๆ)



ดูเหมือนว่า เราสามคนจะมีโอกาสได้พักริมน้ำซองน้อยกว่านักท่องเที่ยวคนอื่นๆของกรุ๊ป เมื่อน้องไกด์ชาวลาวส่งเสียงเรียกให้ลงเรือคายัค เพื่อล่องลำน้ำซองต่อ
"พวกพี่ ซื้อแพ็คเก็ตไปเที่ยวต่อที่ บลูลากูน ด้วยไม่ใช่หรือครับ?...เราต้องเดินทางไปกันก่อนครับ เพื่อจะได้ต่อรถ และมีเวลาเล่นน้ำที่บลูลากูน นานหน่อย" น้องไกด์ อธิบายถึงเหตุผล ที่เรียกพวกเราลงเรือคายัคเร็วทั้งๆที่กำลังฟิล กับการนอนเอกเขนกบนเปล ในร้านอาหารที่พักริมน้ำ
คายัค ถูกปล่อยลอยลำไปเรื่อยๆ ตามความแรงของน้ำที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เพียงใช้พายทำเป็นหางเสือ เรือคายัคก็เลี้ยวซ้าย ขวา ไปตามต้องการ ก็มีบ้างในบางช่วงของลำน้ำซอง ที่มีมีเกาะแก่งหรือโขดหินเล็กๆโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาขวางทางเรือ ทำให้คายัคลอยขึ้นไปเกยตื้น ในบางเวลา หรือถ้าชำนาญหน่อยก็พายหลบหลีกกันเป็นที่สนุกสนาน





 

ลำน้ำซองมีบางช่วง ที่ดูไหลนิ่งๆ แต่ก็มีความลึกพอสมควร มีลูกทัวร์บางคนถึงกับต้องสละเรือลงไปลอยคอยว่ายน้ำเล่น โดยมีไกด์คอยพายเรือคายัค คอยดูแลลูกทัวร์อยู่ห่างๆ
ส่วนผมซึมซับกับทิวทัศน์ และวิถีของชาววังเวียงสองริมฝั่งลำน้ำซอง  ที่มีทั้งป่าสลับกับภูเขาสูง
ภาพวิถี ชาววังเวียงที่ใช้สวิงช้อนลงไปในน้ำเพื่อหา กุ้ง หอย ปู ปลา ในลำน้ำใสเป็นภาพที่หาดูได้ยากในสังคมเมือง ผมจึงไม่รีรอที่จะบันทึกภาพอันงดงาม ไว้เชยชม




อีกวิถีริมลำน้ำซอง

ร้านอาหารเครื่องดื่ม มีอยู่ตลอดของลำน้ำ ใครเหนื่อยก็พัก ใครกระหายก็แวะดื่ม อีกทั้งบ้านพักโอมสเตย์ รีสอร์ต ก็เริ่มมีให้เห็นอยู่มากมายเพื่อลองรับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาดื่มด่ำความสุข ความงาม ที่จะได้รับจากวังเวียง
วิถีการหาปลาอีกอย่าง ขอชาววังเวียง ที่พบเห็นได้บ่อยคือการดำน้ำโดยการเอาเพียงหน้าจุ่มลงไปในน้ำ เพื่อยิงปลา เด็กๆที่นี้ นิยมมาดำน้ำยิงปลา หรือจับปลาที่อยู่ตามซอกหินนำขึ้นไปก่อไฟปิ้ง ย่าง ริมฝั่งร่วมวงกินกันอย่างสนุกสนาน  


ร้านอาหารที่พักริมฝั่งน้ำซอง มีให้เห็นอยู่ทั่วไป

นักท่องเที่ยวชาวยุโรป ชอบล่องห่วงยางมากกว่าพายเรือคายัค


วิถีดำจับปลา ของชาววังเวียง พบเห็นกันบ่อยในลำน้ำซอง


 
 


 



สองแม่ลูกพายคายัด เข้าไปติดเกาะแก่ง โขดหิน ในลำน้ำซอง เป็นที่สนุกสนาน

พี่ดำน้ำยิงปลา แล้วนำขึ้นมาปิ้งย่าง แบ่งปันริมฝั่งในน้องกิน เป็นภาพวิถีที่สวยงามริมน้ำซอง

 


เด็กเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

หาปลา ริมน้ำซอง

ทัวร์เกาหลี ไปท่องเที่ยววังเวียงกันมากขึ้น


เด็กๆ ดำน้ำหาปลา




วิถีชาววังเวียง กลางลำน้ำซอง


ก่อไฟเตรียมย่างปลา ที่หาขึ้นมาได้




ภาพที่เห็นชินตา ในน้ำซอง วังเวียง

หลังจากที่เราล่องเรือคายัคชมบรรยากาศเกือบสองชั่วโมง รวมระยะทางประมาณ ๑๐ กว่ากิโล เราก็มาถึงลำน้ำซองบริเวณตัวเมืองวังเวียงใกล้กับที่ ที่เราพัก เรือล่องมาได้สักพักก็ถึงท่าเทียบเรือหางยาวหลากสีสัน ก็มีรถกระป้อ มารอรับพวกเรา เพื่อไปเที่ยวที่ บลูลากูน กันต่อ



บรรยากาศริมน้ำซอง




ยังสนุก แม้แดดจะร้อน





ท่าเรือหางยาว ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวสำผัสลำน้ำซอง


 
นั่งรถกระป้อ ไปเที่ยว บลูลากูล กันต่อ

ความงามของวังเวียง ไม่ได้จบที่ลำน้ำซอง แต่ความงามผสมกับความตื่นเต้นโลดโผน ยังรอพวกเราอยู่ที่ "บลูลากูน" เราสามคน พ่อ แม่ ลูก กำลังจะไปสัมผัสที่นั้น ...ดูซิว่าทำไม นักท่องเที่ยวหลายคน บอกกันปากต่อปาก ว่าที่นี่เป็นสุดยอดแอดแวนเจอร์ ของวังเวียงกันเลยทีเดียว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แกลอรี่รูปภาพTiewZogZag